กุลวัชร หงษ์คู

                    นับว่าเป็นพรรคเก่าพรรคแก่ ของการเมืองของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ กับ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดตัวมาย่างเข้าสู่ปีที่ 73 แล้ว นับว่าเป็นพรรคหนึ่งที่มีคนรักและให้การสนับสนุนไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้ พรรคประชาธิปัตย์ของสมุทรสาคร ก็จัดทัพว่าที่ผู้สมัครกันเรียบร้อยและลงตัวที่สุดแล้ว ซึ่งคนแรกในเขตเลือกตั้งที่1กับคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก็คือ นายกุลวัชร หงษ์คู  อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลสมุทรสาคร ที่ตอนนี้ได้ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางจากการเมืองท้องถิ่นมาสู่การเมืองใหญ่ ที่คิดว่าน่าจะสามารถทำอะไรให้กับสมุทรสาครได้เร็วและมากขึ้น สำหรับกุลวัชร หงษ์คูนั้น บอกว่าตนเองเป็นลูกหลานชาวประมงแท้ๆ รู้ลึกกับเรื่องประมงไม่แพ้ใคร แม้มาจับงานในภาคธุรกิจ ก็ยังเป็นธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องสินค้าที่มาจากภาคประมง ส่วนเส้นทางการเมืองนั้น ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2550 กับการลงเลือกตั้งของเทศบาลนครสมุทรสาคร และก็ได้รับตำแหน่งนายกเทศมตรีเทศบาลสมุทรสาคร 1 สมัย จากนั้นเมื่อพ้นตำแหน่ง ก็หันไปดูแลธุรกิจของตนเอง แต่ก็ยังเข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องการพัฒนาท้องถิ่นอยู่บ้าง อย่างเช่น โรงพยาบาลนครท่าฉลอม กุลวัชร หงษ์คูก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมผลักดันให้เกิดขึ้นมา สำหรับการเมืองใหญ่รอบนี้ บอกว่า สิ่งที่ตนเองอยากจะทำก็มีหลายเรื่อง แต่ที่สำคัญเลยก็คือ เรื่องของประมง อาชีพหลัก อาชีพสำคัญของสมุทรสาคร ซึ่งจะต้องแก้ปมปัญหาที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ให้ได้ เรือทุกลำที่ต้องหยุด จะต้องลุกขึ้นมาทำมาหากินให้ได้อีกครั้ง และไม่เห็นด้วยว่าประมงของไทยจะต้องเดินตามกฎหมายต่างประเทศมากเกินไป นอกจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของการศึกษา เด็กทุกคนจะต้องได้รับการศึกษาตามเป้าที่เขาต้องการ การศึกษาต้องเข้าถึงง่ายแบบไม่มีข้อจำกัด  ส่วนอีกเรื่องเด่นๆที่ตั้งใจไว้นานแล้วที่อยากจะทำ ก็คือเรื่องการจราจรตรงสะพานวัดเจษฎาราม ที่จะต้องไม่สับสนชุลมุนเช่นทุกวันนี้  และมั่นใจว่าหากตนเองได้รับชัยชนะ สมุทรสาครต้องได้รับการพัฒนาอย่างชัดเจน

มาต่อกันที่เขต 2 ที่เพิ่งปรับเปลี่ยนตัวว่าที่ผู้สมัครกันไปเมื่อไม่นานนี้ และมั่นใจว่า บุคคลคนนี้จะต้องทำอะไรให้กับสมุทรสาครได้ไม่น้อยเลยทีเดียว กับสมชัย ศรีสุทธิยากร คนท่าฉลอมแต่กำเนิด  อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งก็เป็นบุคคลหนึ่งที่อยู่กับเรื่องการเมือง การเลือกตั้ง เห็นการเมืองในภาพรวมมาเป็นอย่างดี แม้ว่าตนเองจะไม่ได้ทำงานในสมุทรสาคร แต่ก็กลับมาสมุทรสาครเป็นประจำ เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับสมุทรสาครที่ทำให้รู้ว่า ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน สมุทรสาครก็ย่ำอยู่กับที่ ไม่มีการพัฒนาอย่างชัดเจน และวันนี้ที่ตนเองตัดสินเข้ามาเป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์สมุทรสาคร ก็เพราะต้องการทำให้สมุทรสาครเกิดการเปลี่ยนแปลง จะนำนโยบายภาพรวมของพรรคมาสู่จังหวัด จะต้องตีโจทย์ให้แตกว่าสมุทรสาครต้องการอะไร และมั่นใจว่าตนเองต้องทำได้ แม้ตนเองจะไม่มีประสบการณ์ในการเมืองท้องถิ่นของสมุทรสาครมาก่อน แต่ตนเองก็เสียงดังพอสำหรับการเมืองในระดับประเทศ เชื่อว่าปัญหาของสมุทรสาครจะต้องเข้าสู่กระบวนการแก้ปัญหาจากทางรัฐบาลได้อย่างตรงจุด เพราะนอกจากตนเองแล้วก็ยังมีว่าที่ผู้สมัครของอีก 2 เขต ที่เรียกได้ว่า เป็นสายเข็งของสมุทรสาครพอสมควร ที่จะมารวมกันเป็นทีม ทีมที่จะเข้าเปลี่ยนแปลงสมุทรสาคร  และเวลาที่เหลือตอนนี้ก็เชื่อว่าจะทำให้ทุกคนรู้จักตัวตนคนทำงานอย่างตนเองได้ไม่ยากอย่างแน่นอน

ส่วนสุดท้ายกับเขต3 กับอดีต สส.เก่าของสมุทรสาคร อย่าง นิติรัฐ สุนทรวร ผู้ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองใหญ่มาแล้วตั้งแต่ปี 2550  และครั้งนี้ตั้งใจว่าจะกลับมาทำงานเพื่อสมุทรสาครอีกครั้ง โดยความตั้งใจที่อยากทำให้กับพี่น้องในเขต 3 ก็คือเรื่องปัญหาของเกษตรกร ที่ประสบกับปัญหาราคาตกต่ำ ส่งผลถึงเรื่องปากท้องที่ไม่ดีนัก เลยหวังว่าจะต้องหาทางทำให้การเกษตรทุกภาคส่วนลืมตาอ้าปากได้ ช่องทางการตลาดต้องเข้าถึง ต้องมีการส่งเสริมเรื่องกระบวนการผลิต  รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่นการคมนาคม การขนส่ง รวมถึงเรื่องของกฎหมายต่างๆ ที่ต้องแก้ปมของช่องโหว่กฎหมาย เรื่องของการผลักดันงบประมาณ ซึ่งการทำงานตรงนี้ ทีมของพรรคประชาธิปัตย์ ทำได้แน่นอน เพราะแต่ละคนมีความสามารถที่เป็นจุดเด่นของแต่ละคนอยู่แล้ว

สมชัย ศรีสุทธิยากร

นิติรัฐ สุนทรวร 

ธราธร/ ภาพ  พรเพ็ญ / ข่าว