หัวหน้าคิวรถตู้หึงโหดยิงภรรยาดับก่อนยิงตัวตายตาม

AD-WEB-CCTV-6-12-61

footer_master

เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 2 มกราคม 2562  ร.ต.อ.สุพัฒน์  พันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร  รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในบ้านเลขที่ 1000/49 ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร แพทย์จากโรงพยาบาลสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นบ้านปูน 2 ชั้น  บนทางขึ้นบันไดหน้าห้องนอน พบศพนอนจมกองเลือด 2 ศพ โดยศพแรกเป็นผู้ชายสวมเสื้อสีดำ นอนตะแคง ในมือมีปืนอยู่ 1 กระบอก ขนาด .38 และตกใกล้กับ  มืออีก 1 กระบอก ขนาด .32  ทราบชื่อต่อมาคือ นายสิทธิชัย ตาทอง อายุ 53 ปี มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ ด้านขวากระสุนทะลุออกขมับซ้าย 1 นัด ส่วนอีกศพเป็นผู้หญิงนอนหงาย มีเลือดไหลออกจากปาก ทราบชื่อต่อมาคือ นางวรวรรณ ตาทอง อายุ 53 ปี มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าอกขวา 1 นัด ใต้คาง 1 นัด ใต้ราวนมซ้าย 2 นัด สะโพก 1 นัด และ กลางสันหลังอีก 1 นัด นอกจากนี้ยังมีปลอกกระสุนปืนขนาด .32 ตกอยู่ 6 ปลอก อีกทั้งยังมีข้อความต่างๆ ถูกเขียนอยู่บนผนังหน้าห้องกับที่กระจก  โดยมีถ้อยคำตัดพ้อว่าถูกภรรยานอกใจ และข้อความสงสารลูกสาว

footer_master

จากการสอบถามนายวันชัย เสาแดน อายุ 54 ปี คนขับรถตู้สายมหาชัย-รามคำแหง บอกว่า ทั้งสองคนมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยพร้อมกับลูกๆอีก 2 คน โดยนายสิทธิชัยฯ เป็นหัวหน้าคิวรถตู้สายมหาชัย-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งตนจะนำรถมาจอดที่บ้านนายสิทธิชัยฯ เพราะตนพักอยู่ที่บริเวณหลังบ้านและมักจะได้ยินเสียงสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันเป็นประจำ

footer_master

ส่วนทางด้านนายฐาปกรณ์ ตาทอง อายุ 26 ปี บุตรชายของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน เล่าว่า ครอบครัวของตนมาเช่าบ้านหลังนี้อยู่นานเกือบ 1 ปีแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำงาน  แล้วได้รับข้อความทางไลน์จากพ่อ ที่ส่งมาล่ำลาลูกๆ จึงได้รีบขับรถจักรยานยนต์กลับมา ก็พบว่าพ่อได้ก่อเหตุยิงแม่  และก็ยิงตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว โดยพ่อของตนนั้นมีอาการซึมเศร้าชอบคิดมาก และเคยที่จะพาไปหาหมอ แต่พ่อไม่ยอมไปพบแพทย์ ซึ่งพ่อมักจะมีปากเสียงกับแม่ด้วยความหึงหวง ทั้งๆที่แม่ไม่เคยทำอะไรผิด และไม่เคยนอกใจพ่อ ซึ่งลูกๆก็ไม่คิดว่าพ่อจะมาก่อเหตุดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำศพทั้งสองให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครไปไว้ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร และจะได้ติดต่อญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

footer_master

สุเมธ /ภาพ/ข่าว