ยิงยกครัว
เมื่อเวลาประมาณ09.00น.ของวันที่ 24 ตุลาคม 2560 พ.ต.ท.ไพศาล ขุนณรงค์ สารวัตร(สอบสวน)สภ.โคกขาม รับแจ้งเหตุมีการยิงกันเสียชีวิตภายในหมู่บ้านสวนปาลม์ เลขที่ 3/254 ม.9 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาครจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ทรัพย์ละออ ผกก.สภ.โคกขาม, ,เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร ,เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครและ แพทย์จากโรงพยาบาลสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุอยู่ในห้องนอนชั้นล่างภายในห้องมีเลือดนองเต็มพื้นและพบศพนายเยิ้ม นุชประเสริฐ อายุ 67 ปี นางสมพร นุชประเสริฐ อายุ 60 ปี นางสาววลีรัตน์ นุชประเสริฐ อายุ 33 ปี มีบาดแผลถูกกระสุนปืนตามร่างกายหลายแห่ง รวมทั้งนายวรเดช ตั้งนวพล อายุ 33 ปี ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณขมับด้านขวา นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนขนาด 9มม.จำนวน1กระบอก และอาวุธปืนขนาด.38จำนวน 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด9มม.จำนวน 5 ปลอก ส่วนบริเวณนอกห้องพบปลอกประสุนปืนกระจายเกลื่อนอีกประมาณ 20 กว่าปลอกและมีแม็กกาซีน 1 อัน นอกจากนี้ยังมีเด็กหญิงชลลิชา นุชประเสริฐ อายุ 3 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าขาด้านซ้ายถูกนำส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร จากการสอบถามนายอิสระพร นุชประเสริฐ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนายเยิ้มฯ ผู้ตายบอกว่าคนก่อเหตุเป็นน้องเขยตน คือนายวรเดชฯ สาเหตุนั้นมาจากปัญหาครอบครัวเพราะว่าทะเลาะกับน้องสาวและได้แยกกันอยู่ได้ประมาณ1เดือนแล้วแต่ก็มาข่มขู่เป็นประจำ ส่วนทางด้านนายทองแดง ราศีมา อายุ 52 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นนายวรเดชฯ ได้นำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาวหมายเลขทะเบียน กข 7 สมุทรสาคร มาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมตะโกนเรียกแฟนที่หน้าบ้านจากนั้นประมาณ10นาทีก็ได้กระโดดข้ามรั้วบ้านเข้าไปและเรียกอีกแต่ไม่มีใครเปิดจึงใช้เท้าถีบพังประตูบ้านเข้าไป ต่อมาก็มีเสียงร้องโวยวายและมีเสียงปืนดังขึ้นประมาณ10นัด และก็มีเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้หญิง ซึ่งตนก็ไม่กล้าเข้าไป สักพักเห็นนายวรเดชฯ เดินมาที่รถอีกรอบและก็วิ่งเข้าไปในบ้านอีกครั้งพร้อมกับมีเสียงปืนดังขึ้นอีก2นัดจากนั้นเสียงก็เงียบไปหมด
ส่วนทางด้าน ผกก.สภ.โคกขาม กล่าวว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นสาเหตุน่าจะมาจากปัญหาครอบครัวเพราะว่าสองสามีภรรยาแยกกันอยู่ ซึ่งสามีก็มาตามง้อแต่ผู้หญิงไม่ยอมคืนดี เลยอาจบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อความของนายวรเดชฯ ส่งให้กับพี่ชายที่เคารพนับถือโดยมีใจความขอบคุณในความหวังดีและแจ้งว่าตนจะไม่ทำอะไรให้ไม่สบายใจอีก ซึ่งทางตำรวจจะได้สอบข้อเท็จจริงจากพยานอีกครั้งหนึ่ง ส่วนศพทั้งหมดก็ได้ทำการส่งไปสถาบันนิติเวชเพื่อทำการชันสูตรก่อนจะประสานญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
สุเมธ/ภาพ/ข่าว
