นักเรียนไล่ตีกัน

เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ได้รับแจ้งมีเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทใช้ระเบิดปิงปองปาใส่คู่อริ เหตุเกิดใกล้สี่แยกสาครเกษม หมู่ที่ 11 ฝั่งขาออกกรุงเทพฯ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบประสานตำรวจหน่วยบริการประชาชนสายสี่เข้าตรวจสอบก่อน โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงนั้น ไม่พบกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทแล้ว แต่เศษวัตถุระเบิดปิงปองตกอยู่บนถนน จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้จากการสอบถามแม่ค้าร้านใกล้เคียงก็เทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันนั้นรวมๆ กันแล้วเกือบ 20 คน โดยมีคนถือมีดดาบยาววิ่งไล่ตามคู่อริด้วยแต่ก็ยังไม่ได้ลงมือฟัน ซึ่งตนเองเห็นแล้วก็ทั้งตกใจและทั้งกลัว นอกจากนี้ยังมีการปาระเบิดปิงปองใส่กันทั้งหมด 3 ลูกอีกด้วย ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้

ทั้งนี้ต่อมาก็มีคลิปภาพขณะเกิดเหตุกลุ่มนักเรียนทะเลาะวิวาทถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ข่าวสารนครปฐม โดยเป็นภาพที่เห็นเหตุการณ์ขณะปาระเบิดปิงปองลงบนถนน เสียงดังเห็นกลุ่มควันลอยขึ้นมา แล้วก็เห็นนักเรียนวิ่งข้ามมาตีกัน โดยนักเรียนส่วนใหญ่ใส่หมวกกันน๊อคปิดบังใบหน้า

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.อำพล โอ่เอี่ยม รองผกก.ป. สภ.กระทุ่มแบน เกี่ยวกับมาตรการและการติดตามตัววัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่มที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบนถนนเพชรเกษมมาดำเนินคดีนั้น ซึ่งทางด้านพ.ต.ท.อำพล โอ่เอี่ยม รองผกก.ป. สภ.กระทุ่มแบน บอกว่า ในด้านมาตรการของการป้องกันเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนได้ร่วมมือกับเทศบาลนครอ้อมน้อย จัดกำลังลงพื้นที่เฝ้าระวังเหตุทุกวัน โดยบนถนนเพชรเกษมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดคอยเฝ้าระวังเหตุทั้งหมด 8 นาย และกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจของเทศบาลนครอ้อมน้อยอีก 4 นาย รวมทั้งหมด 12 นาย ซึ่งในทุกวันจะลงไปตรวจเหตุตั้งแต่ช่วงเวลา 14.30 น. และยังคอยติดตามรถรับส่งนักเรียนเดินทางไปกลับอีกด้วย แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น จากการดูภาพแล้วเชื่อได้ว่าเป็นนักเรียนต่างพื้นที่ ที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาจากพื้นที่ติดต่อแล้ววิ่งหนีเข้ามาในเขตอ้อมน้อย

ส่วนทางด้านของการติดตามตัวมาดำเนินคดีนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ กำลังดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ตีกันเป็นนักเรียนจากสถาบันใด แล้วจะได้ประสานกับทางคุณครูของสถาบันนั้นๆ ให้พากลุ่มนักเรียนมามอบตัวเพื่อจะได้รับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งถ้าไม่มีผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์หรือได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุก็จะต้องถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำการอันก่อให้เกิดความตกใจกลัวแก่สาธารณะเป็นต้น อีกทั้งยังจะต้องให้ผู้ปกครองมารับทราบแล้วก็ลงบันทึกทำทัณฑ์บนผู้ปกครองไว้ด้วย

สุเมธ /ภาพ/ข่าว