ทำแผน

ต่อไป AD WEB NET แก้ไข 3-11-60

 

ทำแผน

เมื่อเวลาประมาณ10.30น.ของวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560  พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วยนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และพล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รรท.รอง ผบช.ภ.7 ได้เดินทางมาที่สภ.กระทุ่มแบน เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายคู่อริภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลกระทุ่มแบน โดยมี พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และพ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รักษาราชการแทนผกก.สภ.กระทุ่มแบน ร่วมต้อนรับพร้อมกับมีการประชุมร่วมกันประมาณ 20 นาที จากนั้นจึงได้ควบคุมผู้ต้องหา7คน ประกอบไปด้วยนายอนุรักษ์ พุฒิศิริ,นายฐิติพงษ์ สุขสวัสดิ์,นายกรญวัฒฐ์ บุญชู ,นายณัฐพร รัตนบุรี,นายวาทิตย์ ประวิรัตน์,นายแดง แท่งทองและนายเอ นามสมมุติ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน โดยมีประชาชนที่สนใจมารอดูการทำแผนจำนวนนับร้อยคนซึ่งใช้เวลาในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ20นาทีจากนั้นจึงควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังที่ สภ.กระทุ่มแบน

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ22.30น. ที่มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ยกพวกตามคู่อริมาแล้วมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันด้านหน้าโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นจะตามเข้าไปทำร้ายคู่อริภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ด้วยการใช้ไม้เบสบอลตี  ขณะที่ทางด้านนอกหน้าโรงพยาบาล ก็มีผู้ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่คู่อริจำนวนกว่า10นัด ก่อนที่ทั้งหมดจะหลบหนีไปนั้น โดยในเหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน คือ นายสุรเชษฐ์ อนันต์ชัยศิลป์,นายเนวิน แป้นเงิน และนายธีรยุทธ เชื้อแพ่ง ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กระทุ่มแบน ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบตัวผู้กระทำผิดว่ามีประมาณ11คน และสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้แล้ว7คน

สำหรับวันเกิดเหตุนั้นผู้ต้องหาคือนายอนุรักษ์ ได้ให้การว่าตนและนายฐิติพงษ์ นั่งอยู่ในรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นบรีโอ้ สีขาวหมายเลขทะเบีน ญฮ 2585 กทม. เป็นคนยิงปืนขึ้นฟ้าที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลกระทุ่มแบน จริงโดยใช้ปืนกระบอกดังกล่าวผลัดกันยิงจดหมดแมกกาซีน ตนนั้นยิงไป4นัดส่วนนายฐิติพงษ์ฯ ยิงไปจำนวน 11 นัด จากนั้นก็ขับรถหลบหนีไป ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควรฯและร่วมกันยิงปืนโดยใช่เหตุฯนอกจากนี้ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหารายอื่นได้อีก โดยตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่เหลือว่าร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืน ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้อันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ทางด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รักษาราชการแทนผกก.สภ.กระทุ่มแบน กล่าวว่าจากการสอบสวน สาเหตุมาจากทางกลุ่มผู้เสียหายเคยมีเหตุทะเลาะะวิวาทปัญหาส่วนตัวกับกลุ่มวัยรุ่นคู่อริมาก่อน แต่ในวันเกิดเหตุได้มาปรับความเข้าใจกันแต่ปรากฏว่าไม่สามารถตกลงกันได้จึงเกิดมีเรื่องกันขึ้น และกลุ่มผู้เสียหายได้ถูกทำร้ายและมารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบนแต่กลุ่มคู่อริก็ได้ตามมาทำร้ายร่างกายที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบนอีกจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ  ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามจับผู้ก่อเหตุได้รวม7คนและยังเหลืออีก4คนซึ่งขณะนี้พอทราบติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด ส่วนทางด้านพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.กล่าวว่าทางผบ.ตร.ให้ความสำคัญจึงได้กำชับมาให้ทางตำรวจภาค7และภ.จว.สมุทรสาคร ลงมากำกับดูแลด้วยตนเองและทำการสืบสวนว่าใครที่ทำผิดทั้งหมดกี่คนซึ่งขณะนี้จับได้7คนและที่เหลือต้องตามจับให้หมด ถือว่าเป็นคดีอุกอาจและกระทำในสถานที่ราชการ โดยให้ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจังและเด็ดขาด

ทำแผน1 ทำแผน2 ทำแผน3

สุเมธ ภาพ/ข่าว