เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิดวอนรัฐหาช่องทางการจำหน่ายให้

เรื่องของปลาสลิดล้นตลาดและราคาตกก็คงเหมือนกับภาวะราคาตกต่ำของสินค้าทางการเกษตรชนิดอื่นๆ ที่คงต้องรอสักระยะสถานการณ์ก็อาจดีขึ้น และวันนี้ผู้สื่อข่าวมหาชัยเคเบิลทีวีได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิดรายหนึ่งในตำบลโรงเข้ ซึ่งเลี้ยงปลาสลิดมามากกว่า 20 ปีแล้ว เล่าให้ฟังว่า เรื่องของราคาตกต่ำก็เป็นเพราะตอนนี้ผู้เลี้ยงปลาสลิดมีมากขึ้น เกือบทั้งตำบลโรงเข้ก็ว่าได้ และปริมาณการเลี้ยงต่อบ่อก็เพิ่มขึ้นเท่าตัว เพราะต่างคนก็อยากเลี้ยงให้ได้มากๆเพื่อหวังได้กำไรกันเยอะ การเพิ่มปริมาณการเลี้ยงต่อบ่อเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นราคาปลาสลิดดีมาก คนเลี้ยงได้กำไรกันดีเรียกได้ว่า ได้กำไรหนึ่งเท่าตัวต่อการเลี้ยง 1 รอบ หลายคนจึงเพิ่มปริมาณการเลี้ยง จนในที่สุดก็เกิดภาวะปลาสลิดล้นตลาดอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ซึ่งรอบที่ผ่านมาที่ขายปลาสลิดไปก็ได้กิโลกรัมละ 60 กว่าบาท แต่แม้ว่าราคาจะลงมากแต่ผู้เลี้ยงก็ยังไม่ขาดทุนแต่กำไรที่ได้ลดลงไปพอสมควรทีเดียว

ส่วนเรื่องตลาดรับซื้อนั้น เกษตรกรผู้นี้บอกว่า มีไม่กี่เจ้า ที่ส่งกันอยู่ตอนนี้ก็แม่ค้าจากสุพรรณบุรีที่รับซื้อกันมานาน และเมื่อถามว่าถ้าไม่ขายให้กับพ่อค้า แม่ค้าคนกลาง สามารถขายเองได้ไหม คำตอบที่ได้คือ ส่วนใหญ่แล้วผู้เลี้ยงปลาสลิดก็เลี้ยงกันอย่างเดียว ไม่มีความรู้เรื่องการตลาดเลย เลยไม่รู้จะไปขายที่ไหน เรื่องนี้จึงอาจเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ช่องทางการตลาดของผู้เลี้ยงแคบลง ซึ่งสิ่งที่เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิดอยากให้ภาครัฐสนับสนุนคือการ ตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมา ผู้เลี้ยงก็มีหน้าที่เลี้ยงและนำปลาสลิดที่ได้ไปส่ง จากนั้นผู้ที่มีหน้าที่หาตลาดก็จะนำปลาไปขาย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือกันในกลุ่มผู้เลี้ยงปลาสลิดด้วยกัน ส่วนเรื่องที่ว่าอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยรับซื้อหรือไม่นั้น เกษตรกรรายนี้บอกว่า รัฐบาลคงรับซื้อไม่ไหวแน่นอน เพราะปริมาณปลาสลิดมันมากเกินกำลังการรับซื้อแน่นอน และตอนนี้หลายคนที่เลี้ยงปลาสลิดแล้วกำไรน้อยก็หันมาเลี้ยงกุ้งเพื่อฆ่าเวลาไปก่อนหลายราย       

เอเชีย ภาพ / พรเพ็ญ ข่าว