ไฟไหม้โรงงานผลิตรองเท้าแตะ POPILO

เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันที่ 17 ธันวาคม 2560 พ.ต.ท.พิบูลย์  ธนิตกุล สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่บริษัท พีพีแอล  รับเบอร์ แอนด์ ฟุตแวร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 13/19 หมู่ที่ 9 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับประสานรถน้ำดับเพลิงของเทศบาลตำบลนาดีเข้าระงับเหตุ แต่ปรากฏว่าเพลิงได้โหมลุกไหม้ตัวอาคารชั้นเดียว บนเนื้อที่กว่า 4 ไร่อย่างรุนแรง เนื่องจากภายในตัวอาคารโรงงานมีวัสดุเป็นแผ่นยางและอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ในการผลิตรองเท้าแตะและรองเท้าแตะที่ผลิตสำเร็จรูปแล้วจำนวนมาก  ทั้งนี้จึงต้องประสานขอรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆทั้งในจังหวัดสมุทรสาครและพื้นที่ใกล้เคียง  เข้าช่วยเหลือรวมเกือบ 20 คัน ซึ่งนอกจากจะต้องระดมฉีดน้ำภายในพื้นที่โรงงานที่เกิดเหตุแล้ว ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงโรงงานข้างเคียงที่มีทั้งโรงงานผลิตพลาสติก โรงงานเฟอร์นิเจอร์ และโรงงานผลิตโลหะอีกหลายแห่ง  ประกอบกับมีลมโหมพัดแรงทำให้เพลิงยิ่งลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้

ทั้งนี้จากการสอบถามคนงานรายหนึ่งเล่าว่า  โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตรองเท้าแตะแฟชั่นหลากหลายชนิด  ซึ่งได้เปิดมานานเกือบ 2 ปีแล้ว โดยก่อนที่จะเกิดเหตุนั้น  ช่วงเย็นขณะที่พนักงานยังทำงานกันอยู่  โรงงานเกิดไฟฟ้าดับสักพักใหญ่  พอไฟมาก็มีคนเห็นว่ามีประกายไฟเกิดขึ้นตรงบริเวณหน้าห้องน้ำ แล้วจากนั้นก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ซึ่งคนงานที่มาทำงานในวันอาทิตย์ได้พยายามช่วยกันดับแล้ว แต่ไม่สามารถดับไฟลงได้ และเพลิงก็ได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จนไหม้ตัวอาคารทั้งหลังให้พังลงมา และยังลุกลามมายังตัวอาคารที่กำลังก่อสร้างใหม่ด้านหน้าโรงงานอีกด้วย โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

และสำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันที่ 18 ธันวาคม 2560    นายบดินทร์ เจริญ อายุ 49ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/31 ถ.เสรีไทย เขตคลองกุ่ม-บึงกุ่ม กทม. กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ บอกว่า หลังจากที่เพลิงสงบลงแล้วนั้นพบว่า ตัวอาคารทั้งหมดภายในพื้นที่ 4 ไร่ ได้พังทลายลงมา และมีกองเศษวัสดุซึ่งส่วนใหญ่เป็นแผ่นยางพาราถู ไฟไหม้เสียหาย รวมทั้งเครื่องจักรกลที่ใช้ในกระบวนการผลิตรองเท้าก็เสียหายจนแทบจะไม่เหลืออะไรเลย นอกจากนี้พบว่ายังมีบางจุดในพื้นที่ ที่ยังมีเปลวเพลิงลุกขึ้นมาบ้างเล็กน้อย  แล้วยังมีควันไฟลอยกรุ่นขึ้นมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลนาดี ก็จะได้นำรถแบ๊คโฮมาเกลี่ยตรงจุดที่ไฟครุกรุ่น พร้อมกับใช้รถน้ำฉีดไล่อีกทีเพื่อให้เพลิงสงบอย่างแท้จริง  ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบแต่จากการสอบถามพนักงานพบว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้น มีคนงานไม่ถึง 10 คน เพราะพนักงานแผนกอื่นเลิกงานหมดแล้ว โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหลังฝั่งโรงงานผลิต ซึ่งเกิดจากไฟได้ไหม้เศษวัดสุ (อีวีเอ) ซึ่งเป็นส่วนผสมสำหรับทำรองเท้า ซึ่งค่าเสียหายคาดว่าประมาณ 60 ล้านบาท

ต่อมาทางด้านนายวิรัตน์  ไชยสิทธิ์ นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่มาตรวจสถานที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลนาดี นำเชือกมากั้นปิดบริเวณที่เกิดเหตุไว้ โดยห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงก่อน  นอกจากนี้ยังได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลตำบลนาดี ตรวจสอบว่ามีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากควันและกลิ่นบริเวณพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียงหรือไม่  เพื่อที่จะได้การดำเนินการต่อไป

สุเมธ / ภาพ / ข่าว