จราจรสมุทรสาคร เตรียมใช้ใบสั่งแบบใหม่

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประกาศให้ใช้ใบสั่งแบบใหม่พร้อมกันทั่วประเทศ ตามโครงการระบบโบลิสทิคเก็จ หรือ พีทีเอ็ม  ซึ่งจุดเด่นของใบสั่งแบบใหม่นั้น จะเพิ่มช่องปฏิเสธข้อกล่าวหา  ผู้ขับขี่สามารถยื่นเรื่องได้ภายใน 15 วัน โดยจะช่วยลดการเผชิญหน้าโต้เถียงกันระหว่างตำรวจกับประชาชนลงได้  และเพิ่มโอกาสให้ประชาชนที่ไม่ได้กระทำผิดด้วยตัวเองได้โต้แย้งเจ้าหน้าที่ เช่น ผู้ที่ให้เพื่อนยืมรถขับขี่ แล้วได้รับใบสั่งทางไปรษณีย์ตามชื่อผู้ครอบครองรถ  ประชาชนสามารถนำใบสั่งไปชำระค่าปรับระบบธนาคารกรุงไทย  ( เสียค่าธรรมเนียม 20 บาท ) ผ่านตู้เอทีเอ็ม   และผ่านแอพพลิเคชั่น KTB NETBABH หรือสถานที่ที่มีสัญลักษณ์ PTM ปรากฏอยู่

สำหรับรูปแบบใบสั่งแบบใหม่นั้นจะเพิ่มรหัสบาร์โค๊ดลงไปในใบสั่งเพื่อจะสามารถสแกนผ่านระบบจ่ายเงินของธนาคารได้ทันที   โดยใบสั่งใหม่ทั้งหมดจะมีภาษาอังกฤษกำกับในเนื้อหาพร้อมกับภาษาไทยด้วย   รูปแบบแบบที่1 คือ ใบสั่งทั่วไปที่เขียนด้วยมือ เมื่อประชาชนถูกจับซึ่งจะสามารถใช้แทนใบอนุญาตขับขี่ได้เหมือนใบสั่งรูปแบบเก่าไม่เกิน 7 วัน แต่จะเพิ่มระบบบาร์โค๊ดลงไปด้วย แบบที่ 2. เป็นแบบใบสั่งทางไปรษณีย์สำหรับการถูกตรวจจับผ่านระบบเทคโนโลยีการตรวจจับ ระบบเรดไลท์คาเมล่าหรือกล้องจับฝ่าไฟแดง ระบบกล้องตรวจจับความเร็ว และแบบที่ 3 ใบสั่งสำหรับเครื่องอีทริคเก็ต สำหรับการจ่ายค่าปรับผ่านทางธนาคารได้นั้น จะช่วยให้ประชาชนเกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่จุดใดก็สามารถดำเนินการจ่ายค่าปรับได้ทันทีไม่จำเป็นจะต้องเดินทางไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ที่ออกใบสั่งเหมือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจังหวัดสมุทรสาครจากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองสมุทรสาคร  ได้บอกว่ายังต้องมีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมและเซ็ตระบบกันก่อน ถึงจะมีการใช้ใบสั่งตัวนี้ ซึ่งช่วงนี้สมุทรสาครก็ยังคงใช้แบบเดิมไปก่อน                                 

วุฒิภักร / ภาพ  กันยารัตน์ / ข่าว