โซเชี่ยลถล่มชายปล่อยแมวข้ามถนนให้ถูกรถชน
เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 14 กรกฎาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณถนนหน้าอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่ง ในซอยเอกชัย 30 อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร หลังจากที่มีภาพเผยแพร่ในโลกโซเชี่ยลผ่านทางเฟซบุ๊กของผู้ใช้รายหนึ่งได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าอู่ซ่อมรถ ทำให้เห็นพฤติกรรมของชายคนหนึ่ง ที่เดินข้ามถนนไปอุ้มแมวซึ่งนอนอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็เดินกลับมาที่ฝั่งเดิม แล้วก็รอช่วงจังหวะที่รถขับผ่านมา จึงปล่อยแมวลงให้วิ่งข้ามถนนกลับไป ทำให้แมวถูกรถบรรทุก 4 ล้อ ที่เบรกไม่ทันทับหลัง แล้วก็เกือบจะถูกรถจักรยานยนต์อีกคันชนด้วย โดยเจ้าแมวที่ถูกรถบรรทุกชนทับแล้วแต่ยังไม่ตายนั้น ก็คลานลากขาข้ามกลับไปยังฝั่งที่ถูกอุ้มมาทีแรก ซึ่งคนที่เห็นภาพนี้ในโลกโซเชี่ยลนั้น ต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงพฤติกรรมการกระทำต่อสัตว์ที่โหดร้ายทารุณ และได้มีการแชร์ต่อๆ กันไปมากกว่า 3 พันครั้งแล้ว
โดยทางผู้สื่อข่าวก็ได้ไปติดตามหาเจ้าของแมว แล้วก็ได้พบกับนางยุพา รอดเนียม อายุ 51 ปี อยู่เลขที่ 230/ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร เปิดร้านขายของโชว์ห่วย อยู่ฝั่งตรงข้ามกับอู่ซ่อมรถยนต์ ซึ่งนางยุพาฯ เจ้าของแมวเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า แมวโชคร้ายตัวนี้ชื่อ เจ้าชินจัง เป็นแมวเพศเมีย อายุประมาณ 10 เดือน โดยมีคนนำมาให้ตนกับลูกสาวช่วยกันเลี้ยงมาตั้งแต่คลอดออกมาได้ประมาณ 1 เดือนเท่านั้น เจ้าชินจังเป็นแมวแสนรู้ ขี้เล่น ซุกซน ตามประสาสัตว์ แต่ไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อน หรือไปกัดใครเลย ปกติทุกๆวันเจ้าชินจังจะต้องออกมานั่งเล่นนอนเล่นใกล้ๆ กับที่ตนนั่งขายของ เวลาหิวก็จะร้องขออาหารกินซึ่งของโปรดก็คือ ข้าวคลุกปลาทู พออิ่มก็นั่งเล่นนอนเล่นบริเวณรอบๆ บ้าน ไม่เคยข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเลย เพราะเคยถูกรถชนมาแล้ว ทำให้เจ้าชินจังไม่คิดที่จะข้ามถนนอีก
นางยุพาฯ เล่าอีกว่า วันเกิดเหตุคือช่วงเช้าของวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนั่งขายของอยู่ในร้านนั้น ก็ได้ยินเสียงร้องของเจ้าชินจัง จึงเดินออกไปดู เห็นแมวตนเองนอนหายใจรวยรินอยู่ข้างบ้าน ก่อนที่จะตายลงในที่สุด ซึ่งพอดูตามลำตัวก็เห็นว่ามีร่องรอยถูกรถทับ ก็คิดว่าแมวคงจะถูกรถชนปกติทั่วไป จึงไม่ได้ติดใจอะไร ทั้งนี้ก็ได้ให้คนรู้จักช่วยนำเจ้าชินจังไปฝังให้เป็นที่เรียบร้อย แต่ลูกสาวของตนเกิดความสงสัยขึ้นมา จึงไปเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็เห็นคนงานชายของอู่ซ่อมรถยนต์ เดินข้ามถนนมาอุ้มเจ้าชินจังแบบกอดไว้แนบอกแล้วก็อุ้มข้ามกลับไป จากนั้นก็รอจังหวะที่รถยนต์ขับผ่าน จึงปล่อยเจ้าชินจังลงให้วิ่งข้ามกลับมา เป็นเหตุให้ถูกรถชนตามที่เห็นในภาพ ซึ่งพอเห็นภาพที่ชัดเจนแล้ว ตนกับลูกสาวทนไม่ได้ จึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้ายเกินไป ซึ่งพอตนไปถามคนงานคนนั้น ก็บอกว่าแค่ว่า แมวดิ้นหลุดมือไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย และพอหลังจากที่ตนไปต่อว่าได้เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น คนงานคนนั้นก็ไม่มาทำงานอีกเลย โดยได้ให้ญาติมาขอรับเงินจากเจ้าของอู่ แล้วก็หายไป
ขณะที่ทางด้านของนายชนะ ตะเพียนทอง อายุ 21 ปี เป็นเพื่อนที่ทำงานในอู่ซ่อมรถยนต์เดียวกัน บอกว่า วันนั้นตนยืนอยู่ข้างหน้าอู่ แล้วก็เห็นนายจร (นามสมมติ) ชายในกล้องวงจรปิดเดินไปอุ้มแมวข้ามฝั่งมาจริง จากนั้นก็เห็นแมวหลุดจากมือแล้วก็วิ่งข้ามถนนไป ซึ่งตนก็ออกไปโบกให้รถหยุด แต่รถหยุดไม่ทันจึงทับแมวเข้าอย่างจัง โดยหลังจากที่เกิดเหตุแล้วมีภาพเผยแพร่ออกไปนั้น นายจรก็ได้มาปรับทุกข์กับตน ว่ารู้สึกผิดที่ทำให้แมวตาย และไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ เพราะนายจรเป็นคนที่รักแมวกับสุนัขมาก จะชอบเล่นกับสุนัขและแมวเป็นประจำ ทั้งนี้ก็คิดว่าเพราะความรู้สึกผิดและความกลัวจากการถูกโลกโซเชี่ยลโจมตีนี่เองที่ทำให้นายจร ออกจากงานไปทันที
สุเมธ /ภาพ/ข่าว
