เพลิงไหม้โรงงานผ้านวมรายใหญ่จังหวัดสมุทรสาคร

ADS-WEB-NET POST WEB 30 ทับ 10

ผู้ว่าไฟไหม้ 1

เมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ร.ต.อ.วรพล อัศววงษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.กระทุ่มแบน รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัทสุริยะผ้านวม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 324- 324/1 หมู่ 4 ซอยวปอ. 11 ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้านวมและชุดเครื่องนอนรายใหญ่ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับรุดเข้าตรวจสอบ และประสานรถน้ำดับเพลิงในพื้นที่และใกล้เคียงเกือบ 20 คัน ระดมมาช่วยกันดับเพลิงที่ลุกลามเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีพนักงานของบริษัทกำลังทำงานกว่าร้อยคน  พอเกิดเหตุทั้งหมดได้ช่วยกันขนผ้านวมและเครื่องนอนต่างๆ ออกจากพื้นที่เกิดเหตุกันอย่างโกลาหล เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ มีเพียงแค่อาการสำลักควันไฟเท่านั้น 

ส่วนอาคารเกิดเหตุเป็นบริเวณพื้นที่โรงงานฝ่ายผลิตตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่เศษ แยกออกจากคลังเก็บสินค้าและคลังวัตถุดิบ โดยต้นเพลิงทราบว่า เกิดจากการลุกไหม้ที่จักรเครื่องปั่นเส้นใยด้าย จากนั้นก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว และขยายเป็นวงกว้าง 

ผู้ว่าไฟไหม้ 6

ขณะที่จุดที่ตั้งโรงงานนั้นก็มีโรงงานพลาสติกตั้งติดอยู่อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับหอพักคนงานและชุมชนซึ่งสร้างความแตกตื่นหวาดกลัวให้กับคนในพื้นที่พอสมควรแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ช่วยกันฉีดน้ำสกัดกั้นทุกทางไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ

ผู้ว่าไฟไหม้ 3

และต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเดียวกันนายวีระศักดิ์วิจิตร์แสงศรีผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครพร้อมด้วยนายบรรพตจันทรวงษ์นายอำเภอกระทุ่มแบนและรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไม้ก็ได้เข้าตรวจพื้นที่เกิดเหตุโดยขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจนั้นทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้วและใช้เวลาอีกไม่นานเพลิงก็สงบลงรวมแล้วประมาณ 3 ชั่วโมงเศษแต่ยังคงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยรวมถึงต้องจัดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของอบต.ท่าไม้ประจำการอยู่ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเฝ้าระวังว่าเปลวไฟอาจจะประทุขึ้นมาได้อีก 

ผู้ว่าไฟไหม้ 5

นายวีระศักดิ์วิจิตร์แสงศรีผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครกล่าวว่าหลังจากที่เพลิงสงบลงแล้วนั้นแต่ก็ยังคงต้องมีการประเมินสถานการณ์ต่อไปว่ามีความปลอดภัยที่เพลิงจะไม่ประทุขึ้นมาอีกได้มากน้อยเพียงใดนอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต.ท่าไม้) ดำเนินการออกประกาศกั้นเขตโรงงานให้เป็นพื้นที่อันตรายห้ามบุคคลใดเข้าไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้ใดและเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงตลอดจนยังจะต้องมีการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ว่าจะกับตัวอาคารสิ่งก่อสร้างวัสดุอุปกรณ์เครื่องจักรรวมถึงตัวบุคคลด้วย  เพื่อเข้าสู่การชดเชยค่าเสียหายหรือเยียวยาทางกฎหมายต่อไป 

ผู้ว่าไฟไหม้ 4

นายวีระศักดิ์ฯกล่าวอีกว่าในขั้นตอนต่อไปนอกจากจะให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการฯเข้ามาตรวจสอบแล้วก็จะต้องให้อุตสาหกรรมจังหวัดวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานต่างๆเข้ามาตรวจสภาพความมั่นคงแข็งแรงของอาคารโรงงานด้วยซึ่งเบื้องต้นทราบว่าโรงงานแห่งนี้สร้างมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปีดังนั้นตัวโครงสร้างเกือบทั้งหมดก็ไม่น่าจะยังคงใช้ได้อาจจะต้องรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่เพื่อความปลอดภัยในการดำเนินกิจการต่อไปส่วนผลกระทบอื่นๆก็จะให้เจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการต่อไปด้านสาเหตุนั้นจากการที่ได้พูดคุยกับเจ้าของโรงงานชาวไทยที่สภาพจิตใจยังคงย่ำแย่ก็บอกกับผู้ว่าฯเพียงแค่สั้นๆว่าน่าจะเกิดจากเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตขณะที่ทางด้านของผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด  5 คน โดยมีอาการสำลักควันไฟ 1 คน, .เหล็กทิ่มเท้า 1 คน, เศษเหล็กเข้าตา 1 คน และ ไฟน้ำร้อนลวกกระเด็นใส่ 2 คน../

ผู้ว่าไฟไหม้ 8

ผู้ว่าไฟไหม้ 7