หนุ่มนาวารา ชักปืนขู่ขณะขับรถ

จากเหตุการณ์ที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปวีดีโอที่ถูกหนุ่มขับรถนิสสันนาวาราโชว์อาวุธปืนข่มขู่ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 นายจตุรงค์ โกวิท แฟนของผู้โพสต์คลิปและเป็นคนขับรถยนต์คันที่ถูกหนุ่มนาวาราโชว์ปืนข่มขู่ในวันเกิดเหตุนั้น ก็ได้เข้าให้ปากคำไว้เป็นหลักฐานต่อ พ.ต.ท.พีรวุฒิ พีระวุฒิพันธุ์ รอง ผกก.(สอบสวน) หัวหน้างานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ซึ่งผู้เสียหายได้ให้การว่า ในวันดังกล่าวตนเองและแฟนสาวขับรถมาจากทางถนนพุทธมณฑลสาย 4 เพื่อจะไปทำงานในตัวเมืองมหาชัย แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณปากทางเข้าวัดสุวรรณรัตนาราม อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ก็เห็นรถยนต์กระบะนิสสันนาวาร่าสีดำ หมายเลขทะเบียน กต 7501 ปทุมธานี ซึ่งมีหนุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 30 ปีเศษ เป็นคนขับ ได้ขับมาประกบด้านข้าง แล้วก็ชักอาวุธปืนออกมาโชว์ข่มขู่อย่างที่เห็นในคลิป ซึ่งตนเองและแฟนสาวตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้คู่กรณีเกิดความไม่พอใจ จนถึงต้องชักปืนออกมาข่มขู่กันในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ตนเองได้ให้แฟนสาวเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายคลิปไว้ แล้วก็ส่งต่อไปในกลุ่มเพื่อนๆ น้องๆที่สนิทกัน รวมถึงโพสต์คลิปเพื่อเป็นการเตือนคนในสังคมให้เฝ้าระวังเหตุการณ์แบบนี้ แต่ก็ไม่นึกว่าจะกลายเป็นข่าวดังมีการแชร์คลิปกันอย่างแพร่สะพัด

นายจตุรงค์ โกวิท บอกอีกว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้ถือโทษโกรธคนที่เอาปืนออกมาโชว์ ซึ่งหากเขามาเข้ามอบตัวและมีการขอโทษ ตนเองก็พร้อมที่จะให้อภัยเพราะคนไทยต้องให้อภัยกัน แต่ก็อยากจะฝากเตือนไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนว่า อยากให้ทุกคนใจเย็นเวลาขับรถ มีอะไรกระทบกระทั่งกัน หรือใครทำให้ไม่พอใจ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน อีกอย่างหนึ่งคือ อยากให้มีการควบคุมเรื่องของการพกพาอาวุธปืนในรถให้มากกว่านี้ ไม่อยากให้มีการพกพาอาวุธปืนในรถเลย เพราะถ้าไปอยู่กับผู้ที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ขับยานพาหนะคันอื่นได้ ส่วนคู่กรณีของตนนั้น เดิมทีในวันนี้ได้มีการนัดหมายที่จะมาเจรจาเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ล่าสุดทางคู่กรณีได้ขอเลื่อนนัดไปก่อน เนื่องจากติดธุระสำคัญ ซึ่งก็คาดว่าจะมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันถัดไป ทั้งนี้ตนเองก็ยังต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยที่ปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากเกิดเหตุตอนกลางวัน แล้วตนเข้าแจ้งความตอนเย็น พอตกกลางคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบตัวแล้วว่าคู่กรณีของตนนั้นเป็นใคร ถือเป็นการทำงานที่รวดเร็วและสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนผู้เสียหายได้เป็นอย่างมาก

ส่วนทางด้านของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำและยังได้ติดตามคู่กรณีให้มาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งก็จะต้องมีการสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายให้เป็นที่เรียบร้อย แล้วจึงจะมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยผู้ก่อเหตุนั้นก็จะมีความผิดทั้งเรื่องของกฎหมายจราจร และพ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งหลังจากนี้หากทางผู้ก่อเหตุไม่มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่นัดหมายกันไว้ ก็จะต้องมีการออกหมายเรียกและหมายจับ ตามลำดับขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

สุเมธ /ภาพ/ข่าว