รวบเครือข่ายเอิบ เอิบสำโรง พร้อมกัญชากว่า 40 กิโลกรัม
เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วรพล ยิ่งเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ,พ.ต.อ.ธงชัย เนตรสขาวัฒน์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัดสมุทรสาคร และทหารค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันค้ายาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) เครือข่ายนายอาทิตย์ (เอิบ) เอิบสำโรง พร้อมของกลางเป็นกัญชาแห้งน้ำหนักรวม 40.7 กิโลกรัม อาวุธปืนดัดแปลงแบบลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ,เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 50 นัด 1 กล่อง,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งใช้ในการติดต่อซื้อขายยาเสพติด และรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ สีเขียว หมายเลขทะเบียน 4ษ- 6242 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน กับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆฒ 2001 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ส่วนผู้ต้องหา 4 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้สอบปากคำเพื่อขยายผลเพิ่มเติม
พ.ต.อ.วรพล ยิ่งเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันค้ายาเสพติด ประเภทกัญชาแห้งอัดแท่งรายนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการนำกัญชาแห้งอัดแท่ง ส่งไปให้กับลูกค้าในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยส่งผ่านในรูปแบบพัสดุไปรษณีย์ ของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ณ ที่ทำการไปรษณีย์ตลาดเก้าแสน หมู่ 6 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร จึงได้วางแผนจับกุม จนกระทั่งพบผู้ต้องสงสัยทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ปาล์ม นาคน้อย อายุ 22 ปี กับ นายอาทิตย์หรือเอิบ เอิบสำโรง อายุ 33 ปี ทั้งสองอยู่บ้านเลขที่ 219/431 หมู่ 12 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงขอตรวจค้นสิ่งของที่อยู่ในกล่องปิดผนึกอย่างดี ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การอ้างว่าเป็นเสื้อผ้า แต่เมื่อแกะออกดูก็พบว่า พัสดุทั้ง 17 กล่อง ที่มีขนาดต่างๆ กัน มีกัญชาแห้งลักษณะแท่งสี่เหลี่ยมห่อหุ้มด้วยพลาสติกใส น้ำหนักรวมทั้งหมดประมาณ 12.8 กิโลกรัม บรรจุอยู่ภายใน จึงได้นำตัวไปตรวจค้นเพิ่มเติมที่บ้านพัก ซึ่งก็พบอาวุธปืนดัดแปลงแบบลูกโม่ ขนาด .38 อีก 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 50 นัด 1 กล่อง,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งใช้ในการติดต่อซื้อขายยาเสพติด และ รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ สีเขียว หมายเลขทะเบียน 4ษ – 6242 กรุงเทพฯ อีก 1 คัน จึงได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้นว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ( กัญชา ) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ยังได้ทำการขยายผลเพิ่ม โดยให้ผู้ต้องหาทั้งสองคน ทำทีเป็นสั่งซื้อกัญชาจากเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จนกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 คน คือ นายสุเทพ หรือบังเด๊ะ ภักดีรจนา อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 หมู่ที่ 2 ต.บึงเสนาท อ.เมือง จ.นครสวรรค์ กับ นายเอกชัย หรือบาส ช่วยชูชัย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 /136 ซ.สุขสวัสดิ์ 30 แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลาง เป็นกัญชาแห้งลักษณะแท่งสีเหลี่ยมห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสน้ำหนักประมาณ 27.99 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งใช้ในการติดต่อซื้อขายยาเสพติด และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆฒ 2001 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ( กัญชา ) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่นายสุเทพ ภักดีรจนาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ( กัญชา ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ทั้งนี้ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับกัญชาแห้งอัดแท่งนั้น ถ้าจำหน่ายเป็นแท่งละ 1 กิโลกรัม จะตกอยู่ที่แท่งละประมาณ 6,000 บาท แต่ถ้าแบ่งจำหน่ายเป็นขีดตกอยู่ที่ขีดละ 1,000 บาท ส่วนมูลค่าของกลางทั้งหมดที่จับกุมได้ในครั้งนี้คิดเป็นเงินประมาณ 600,000 บาท
สุเมธ ภาพ/ข่าว
