ผู้อาศัยหมู่บ้านหรูริมพระราม 2 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ ร้องเรียน
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 เจ้าของบ้านในหมู่บ้านหรูริมถนนพระราม2 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร กว่า 50 คน ได้รวมตัวกันมาพบกับนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะประธานฯศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม พร้อมขอความช่วยเหลือในการหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างโครงการกับ ชาวบ้านในโครงการ โดยมีปัญหาที่สำคัญคือ เรื่องน้ำท่วมภายในโครงการฯ กับเส้นทางเข้าออกทางที่สอง ของหมู่บ้าน
ด้านตัวแทนชาวบ้านบอกว่า ปัญหาภายในโครงการที่พวกตนสุดจะทนจนต้องรวมตัวกันมาร้องเรียนมีเรื่องใหญ่ๆด้วยกัน 2 เรื่องคือ ปัญหาน้ำท่วมภายในหมู่บ้าน จนไม่สามารถที่จะนำรถออกจากบ้านได้ ส่วนสาเหตุก็มาจากปัญหาถนนทรุดตัว ทำให้พื้นถนนต่ำกว่าระดับน้ำในคลองระบาย เมื่อฝนตกน้ำบนถนนก็ไม่สามารถไหลออกไปได้ โดยอยากให้ทางโครงการฯ เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้อย่างถาวร ซึ่งแม้ปัจจุบันทางโครงการจะเข้ามาทำการลอกคลองระบายน้ำ 4 ด้าน และเพิ่มเครื่องสูบน้ำ แต่พวกตนเห็นว่าไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาระยะยาวได้จริง คือ การวางระบบท่อระบายน้ำใหม่เพื่อให้ตรงกับสภาพความเป็นจริงของที่อยู่อาศัยภายในโครงการฯ ปัจจุบัน ส่วนการเพิ่มเครื่องสูบน้ำนั้น เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อีกทั้งถ้าในอนาคตมีการจัดตั้งนิติบุคคลก็เท่ากับเป็นการสร้างภาระและผลักมาให้นิติบุคคลเป็นผู้รับผิดชอบ, อีกปัญหาหนึ่งที่แม้จะมีการพูดคุยกันมาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เกิดผลตามที่ประชาชนในหมู่บ้านร้องขอนั้นคือ เรื่องของทางเข้าออก 2 ด้าน ที่ไม่เป็นไปตามที่เคยตกลงไว้กับผู้ซื้อ ว่าสามารถเข้าออกได้ทั้งด้านถนนพระราม 2 กับ ด้านถนนพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัทฯ ได้สร้างสิ่งปิดกั้นระหว่างโครงการฯ บ้านเดี่ยว ที่ต้องเข้าออกทางถนนพระราม 2 กับ โครงการทาวน์โฮม ที่เข้าออกทางถนนพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งแม้จะเป็นของบริษัทฯ เดียวกัน แต่ไม่สามารถใช้ทางเข้าออกทั้ง 2 ด้านร่วมกันได้
ด้านตัวแทนชาวบ้านบอกอีกว่า ในเรื่องของการจัดตั้งนิติบุคคลนั้น ทุกคนในโครงการทั้ง 11 โซน ซึ่งมีอยู่เกือบ 2,000 หลัง พร้อมที่จะจัดตั้งนิติบุคคลทันที ถ้าทางบริษัทของโครงการฯ ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เป็นที่เรียบร้อยและได้มาตรฐานสมบูรณ์แบบเสียก่อน แต่ที่ผ่านมาพอมีการเจรจากันระหว่างตัวแทนชาวบ้านกับบริษัทของโครงการ คำตอบที่ชาวบ้านได้รับคือ จะนำเรื่องไปเสนอต่อผู้ใหญ่ หรือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีอะไรดีขึ้น และมีการปิดป้ายประกาศขายบ้านแล้วกว่า 100 หลังคาเรือนในโครงการ
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หลังจากที่รับเรื่องร้องเรียนแล้ว ก็บอกว่าจะดำเนินการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ แต่ทั้งนี้ก็คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ซึ่งแม้ว่าผู้ว่าฯ จะย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่น แต่ก็จะไม่ทิ้งปัญหานี้อย่างแน่นอน และชาวบ้านสามารถมาติดตามความคืบหน้าได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดสมุทรสาคร
นอกจากนี้ในวันเดียวกันก็ มีผู้พักอาศัยในหมู่บ้านดังกล่าว 4 คน ได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน สภ.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากถูกทางตัวแทนบริษัทผู้รับผิดชอบโครงการหมู่บ้านที่มีปัญหานี้ ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ว่า บุคคลทั้ง 4 ก่อความเดือดร้อนรำคาญ และทำให้โครงการฯ เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากนำรถที่ติดป้ายน้ำท่วมไปขับวนหน้าสำนักงานขาย พร้อมกับบีบแตรส่งเสียงดังรบกวน ขณะที่พนักงานกำลังขายบ้านและที่พักอาศัยให้กับลูกค้ารายอื่น ซึ่งทางผู้ที่ถูกแจ้งความร้องทุกข์ทั้ง 4 คนนั้น ก็ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และมีชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันเดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก โดยทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำต่อไป ด้านตัวแทนบริษัทของโครงการฯ ก็ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า การแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้พักอาศัย 4 คนนั้น ก็มาจากการก่อความเดือดร้อนรำคาญเท่านั้น ส่วนเรื่องของการร้องเรียนเป็นเรื่องปกติของผู้พักอาศัยในทุกโครงการ ซึ่งปัญหาความไม่พอใจของชาวบ้านก็เกิดจากปัญหา 2 อย่างคือ เรื่องทางเข้าออก กับ เรื่องน้ำท่วม โดยในเรื่องน้ำท่วมนั้นทางโครงการได้ใช้เงินของโครงการฯ มาดำเนินการแก้ไขขุดลอกทางระบายน้ำทั้ง 4 สายแล้ว เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ขณะที่เรื่องของทางเข้าออกทางด้านถนนพันท้ายนรสิงห์ ที่เป็นทางเข้าออกของผู้พักอาศัยทาวน์โฮม แต่ผู้ที่พักอาศัยโครงการบ้านเดี่ยวต้องการใช้ร่วมด้วย ในทางกลับกันผู้พักอาศัยบ้านเดี่ยวกลับไม่ยอมให้ผู้พักอาศัยทาวน์โฮมใช้ทางเข้าออกถนนพระราม 2 จนกลายเป็นปัญหาและที่มาของการปิดกั้นทางเชื่อมต่อนั้น ทางโครงการเห็นว่า ควรที่จะต้องมีการจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นมาเพื่อการเจรจาหาทางยุติปัญหานี้ร่วมกัน
สุเมธ/ภาพ/ข่าว
