ทลายแหล่งที่พัก หลอกพาสาวค้ากามเกาหลี

AD WEB NET แก้ไข 3-11-60

s-ทลายที่พักค้ากามเกาหลี-01

หลังจากที่สื่อออนไลน์ได้มีการนำเสนอข่าวของชายคนหนึ่งซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนายนาวิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ร้องเรียนว่า แฟนสาวถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศเกาหลี และแจ้งมีการแจ้งพิกัดว่า สถานที่ดังกล่าวอยู่บริเวณหลังโรงพยาบาลสัตว์ ถ.สายใยรัก ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยจะหลอกว่าให้ไปทำงานนวดแผนไทย แต่เมื่อไปถึงประเทศเกาหลีกลับถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่าน

s-ทลายที่พักค้ากามเกาหลี-02

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 8 ตุลาคม 2561 พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาครได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน สนธิความร่วมมือกับ ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ตั้งอยู่เลขที่ 95/14 หมู่ที่ 3 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยจากการเข้าตรวจสอบพบว่าที่อาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว มีหญิงไทยพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 6 คน นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่คนละ 1 ใบ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบนั้นทุกคนไม่ได้มีทีท่าหลบหนีและไม่มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวแต่อย่างใดทั้งสิ้น ขณะที่การตรวจสอบหลักฐานของสาวไทยทั้ง 6 คน พบว่าแต่ละคนมีพาสปอร์ตเตรียมพร้อมเดินทางออกต่างประเทศ

s-ทลายที่พักค้ากามเกาหลี-03

จากการสอบถามสาววัย 45 – 50 ปีทั้ง 4 คน บอกว่า พวกตนได้รับการติดต่อทางไลน์จากเพื่อนๆว่า มีบริษัทฯ รับสมัครสาวไทยไปทำงานเป็นแม่บ้านที่เกาหลีได้เงินดี ทำให้พวกตนสนใจและก็ติดต่อขอไปทำงานเป็นแม่บ้าน โดยทางนายหน้าบอกให้พวกตนเดินทางมาพักที่อาคารพาณิชย์แห่งนี้ก่อน พวกตนจึงลาออกจากงานที่ จ.ภูเก็ตแล้วก็เข้ามาพักอาศัยอยู่ที่นี่หลายวันแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ไป ผู้เสียหายรายหนึ่งยังเล่าอีกว่า พวกตนต้องการไปทำงานเป็นแม่บ้านที่เกาหลีเพราะเห็นว่าได้เงินดี และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น แค่เสียค่าเครื่องบินจากภูเก็ตมาเท่านั้น ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินที่จะไปเกาหลีนั้น ทางนายหน้าฯจะออกให้ก่อนแล้วค่อยไปหักเงินที่เกาหลี

ส่วนทางด้านของหญิงสาววัยรุ่น 2 คน ที่พบอยู่ด้วยนั้นก็บอกว่า พวกตนติดต่อกับนายหน้าผ่านทางเฟซบุ๊ก และก็เดินทางมาพักอาศัยอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราว เพื่ออบรมเรื่องการนวดที่ต้องเสียเงินเพิ่มไปอีกคนละ2,00บาท ก่อนจึงจะเดินทางไปได้ ทั้งนี้ด้านนายหน้าได้เคยถามพวกตนว่า อยากจะไปทำงานประเภทไหน สมัครใจที่จะไปขายบริการทางเพศ หรือไปเป็นหมอนวด ซึ่งตนก็บอกไปว่าขอไปทำงานเป็นหมอนวดดีกว่า ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พาหญิงทั้ง 6 คน ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.กระทุ่มแบน โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร กับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมสอบปากคำด้วย

ต่อมาเมื่อเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 ตุลาคม 2561 พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการภาค 7 ได้เดินทางมาที่ สภ.กระทุ่มแบน  เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดย เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้เข้าตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งจากนายนาวินฯ ก็มีการประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเกาหลีและตำรวจสากล ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า แฟนสาวของนายนาวินฯ นั้น ถูกหลอกไปขายบริการทางเพศจริงหรือไม่ หรือเป็นเพราะความห่วงใยจนทำให้นายนาวินเกิดความร้อนใจที่ติดต่อแฟนสาวไม่ได้ จึงคาดการณ์ไปเองว่าอาจจะถูกลวงไปขายบริการทางเพศ ซึ่งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคุยผ่านไลน์กับนายนาวินฯ แล้วโดยทราบว่าขณะนี้นายนาวินยังอยู่ที่ประเทศเกาหลี และกำลังจะเริ่มงานที่นั่น จึงไม่สะดวกที่จะกลับมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทั้งนี้ทางตำรวจไทยก็ได้ประสานกับตำรวจสากล เพื่อให้ช่วยติดตามหาตัวนายนาวินฯ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อันจะนำไปสู่การติดตามหาตัวแฟนสาวของนายนาวินฯ

พล.ต.ต.อุดรฯ กล่าวอีกว่า หากเรื่องของการหลอกพาสาวไทยไปค้าประเวณีเป็นเรื่องจริง ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยและตำรวจสากล ที่จะต้องร่วมกันขจัดขบวนการนี้ให้หมดสิ้นไป แต่ถ้าสิ่งที่นายนาวินร้องเรียนไม่เป็นความจริงนั้น ก็ต้องไปสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ที่นายนาวินทำลงไปนั้นเพราะเหตุใด และอยากฝากเตือนไปถึงผู้ที่จะไปทำงานต่างประเทศต้องมีการตรวจสอบบริษัทจัดหางานที่ประกาศอยู่นั้นว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดเพื่อไมให้ต้องตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์

สุเมธ ภาพ/ข่าว