จับโรงงานผลิตเหล็กเส้นไร้มาตรฐานกว่า 1000 ตัน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 กันยายน 2561 นายวันชัย พนมชัย รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ.ได้นำคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบริษัทเพิ่มสตีล จำกัด แห่งที่ 2 ที่บริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังจากที่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 กันยายน2561 ได้เข้าตรวจจับที่โรงงานแห่งแรก ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันแต่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งพบว่ามีการลักลอบผลิตเหล็กเส้นกลมผิดกฎหมายและไม่ได้มาตรฐาน โดยจากการเข้าตรวจค้นโรงงานแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นโรงงานสร้างใหม่ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่นั้น ก็พบเหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก พร้อมกับ เครื่องจักรนับ 10 เครื่อง และยังมีวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตแปรรูปเป็นเหล็กเส้นกลมกองอยู่นับไม่ถ้วน
นายวันชัย พนมชัย รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการเข้าตรวจจับว่า สมอ. ภายใต้การนำของนายอภิจิณ โชติกเสถียร เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่ให้เข้มงวดกวดขันกับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเมื่อวานได้เข้าตรวจแล้วแห่งแรก ต่อมาก็ได้ทำการขยายผลเข้าตรวจโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตแห่งที่สองนี้ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กเส้นรายเดียวกัน และนับเป็นรายใหญ่ย่านอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยเหล็กเส้นนั้นเป็นผลิตภัณฑ์มาตรฐานบังคับที่ต้องผลิตให้ได้ตามมาตรฐาน แต่ที่โรงงานแห่งนี้กลับพบเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานคาเครื่องจักร และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตจำนวนกว่า 1,000 ตัน มูลค่ามากกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งโรงงานแห่งนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ผลิต แต่มีการฝ่าฝืน ลักลอบผลิตในเวลากลางคืน และขนย้ายเหล็กออกจากโรงงานก่อนฟ้าสาง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ โดยการตรวจจับครั้งนี้นับเป็นการทลายแหล่งต้นตอของการผลิตเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานก่อนส่งจำหน่ายผู้บริโภค ซึ่งหากเหล็กดังกล่าวถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างจะส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งตามข้อกำหนดนั้นเหล็กเส้นกลมจะต้องมีน้ำหนักมาตรฐานประมาณ 4.9 กิโลกรัมต่อความยาว 10 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 9 มิลลิเมตร แต่โรงงานแห่งนี้ผลิตเหล็กเส้นที่มีน้ำหนักเพียง 2.8 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางก็เหลือเพียง 6 มิลลิเมตร เท่ากับหายไปจากมาตรฐานไปเกือบครึ่ง สำหรับบทลงโทษกรณีนี้ผู้ผลิตต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือจำคุกไม่เกินสองปีหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทาง สมอ.เมื่อได้ทำการอายัดสิ่งของที่ตรวจพบทั้งหมดแล้ว ก็จะได้ส่งเรื่องให้ DSI เป็นผู้ดำเนินคดีเอาผิดทางกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ รองเลขาธิการ สมอ.ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า จะมีการตรวจติดตามการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่ง สมอ.ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่ามีการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงขอเตือนไปยังผู้ประกอบการทั้งผู้ทำและผู้จำหน่าย ให้ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน เพราะ สมอ. จะดำเนินการอย่างเข้มงวดกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยการลงพื้นที่ตรวจติดตามผู้ทำ ผู้นำเข้า และผู้จำหน่ายสินค้าในท้องตลาด เป็นภารกิจที่สำคัญของ สมอ. และถือเป็นมาตรการหนึ่งของกระทรวงอุตสาหกรรมในการปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รวมทั้งสร้างความเข้าใจในการจำหน่ายสินค้าที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานแก่ผู้จำหน่ายในท้องตลาดอีกด้วย ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าด้วยความรอบคอบ ตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ และอย่าได้หลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เมื่อใช้แล้วอาจเกิดอันตรายจากการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นได้
สุเมธ /ภาพ/ข่าว
