ข่าวท้องถิ่น

เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 3 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบอุบัติเหตุรถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลตสีดำ หมายเลขทะเบียน ชบ 5611 กรุงเทพฯ พุ่งเข้าไปหน้าร้านวัฒนสังฆภัณฑ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ได้รับความเสียหายทั้งรถและร้านค้า แต่ที่น่าอัศจรรย์ใจคือพระพุทธรูปหลวงพ่อขาว ขนาดเท่าองค์จริง มีสภาพเสียหายเล็กน้อย จากการสอบถาม เจ้าของร้าน

  คณะกรรมการติดตามการบริหารงานตำรวจ สภ.บ้านแพ้ว ซึ่งนำโดยนายณัชธพงศ์ ลีกิจแสงเจริญกุล ประธานคณะกรรมการติดตามการบริหารงานตำรวจ สภ.บ้านแพ้ว พร้อมด้วยคณะกรรมการทั้งหมด ได้นำของสิ่งของไปมอบให้กับทาง สภ.บ้านแพ้ว โดยมีพันตำรวจโทวิรัตน์ ผลพัฒนาสกุลชัย รองผู้กำกับการ สภ.บ้านแพ้ว เป็นผู้รับมอบ สำหรับสิ่งของที่นำไปมอบนั้น มีเก้าอี้ คอมพิวเตอร์ ทีวี ตู้ทำน้ำร้อน

    นายสิริบูรณ์ ทองบางเกาะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย ได้ชี้แจงว่า เนื่องจากได้มีประชาชนได้ร้องเรียนเข้ามาว่าได้รับความเดือดร้อนในการสัญจรไปมาบนถนนคลองครุ-ศรีเมือง เพราะรถไม่สามารถสวนกันได้ เนื่องจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้านำสิ่งของมาวางตั้งจำหน่ายบนฟุตบาทและลุกล้ำลงมาบนถนนด้วย ซึ่งจะเป็นหนักในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะตอนเย็นที่จะมีสิ่งของวางตั้งขายจนรถแทบจะวิ่งเข้าออกไม่ได้ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทรายจึงได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ค้าทุกรายให้ทราบว่า วันที่ 5 กันยายนนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทรายจะเอาจริงหากยังพบใครฝ่าฝืน ตั้งของลุกล้ำทางเดินและถนน โดยขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย รวมถึงตำรวจ สภ.เมืองฯแล้วให้ร่วมดำเนินการ

    นางอัธยา อ่ำหนองโพ จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้แรงงานต่างด้าว สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา กลุ่มที่ใบอนุญาตทำงานและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ และกลุ่มที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ในวันที่ยื่นขออนุญาตเพื่อให้อยู่ในราชอาณาจักร และอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 2 ปี   ส่วนการอนุญาตทำงาน

หลังจากที่แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ได้ติดประกาศว่าจะทดลองปิดจุดกลับรถแยกที่จะเข้าซอยอู่ปรีชา ถนนเอกชัย ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2562 เป็นต้นไป ซึ่งเรื่องนี้ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางทีมข่าวมหาชัยเคเบิลทีวี จึงได้เดินทางไปสอบถามถึงเหตุผลของการทดลองปิดจุดกลับรถดังกล่าวกับ ดร.พัฒนพงศ์ ทองสุข แขวงทางหลวงสมุทรสาคร และได้มีการชี้แจงว่า ที่ผ่านมาได้มีประชาชนทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่าบริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอให้มีการติดตั้งสัญญาณไฟจราจรบริเวณแยกดังกล่าว ดังนั้นทางผู้ว่าฯจึงได้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบจราจรทางบกของจังหวัดสมุทรสาคร โดยให้แขวงทางหลวงสมุทรสาคร

ที่ห้องประชุมโรงแรมเซ็นทรัลเพลส นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการยกระดับเจตจํานงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริตของสาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด โดยมีนายเธียรสรรค์ วิริยานุภาพ ผู้อํานวยการสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจําจังหวัดสมุทรสาคร  นักการเมืองทุกระดับ ตัวแทนพรรคการเมือง ประชาชน และผู้มีส่วนได้เสีย เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด  ได้กล่าวย้ำว่า การต่อต้านทุจริตเริ่มต้นที่ตัวเราด้วยจริยธรรมที่ดีจากใจ เพื่อเดินไปสู่การลดปัญหาการทุจริต เพื่อความบริสุทธิ์โปร่งใส

เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 3 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และร้านกระจกอลูมิเนียม บริเวณปากซอยคุ้มหลวง ถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ หมู่ที่ 9 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร หลังได้รับทราบว่า มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในร้านทั้ง 2 แห่ง สูญหายไปหลายรายการ โดยร้านแรกเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ของนายจักรพันธุ์ แท่นนิล

เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 2 กันยายน 2562 ตำรวจ สภ.บางโทรัด รับแจ้งอุบัติเหตุมีรถชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ถนนพระราม 2 ขาเข้า กทม. บริเวณหน้าวัดบางตะคอย หมู่ที่ 2 ตำบลชัยมงคล อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถกู้ชีพโรงพยาบาลมหาชัย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 กันยายน 2562 นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ประสานงาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร,นายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาลนครสมุทรสาคร ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายวิษณุ อยู่ดี ผอ.สำนักสถาปัตยกรรม กรมโยธาธิการและผังเมือง, ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม รองประธานกรรมการบริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง

    และนี่ก็คือนางสาวสุทิพย์ ศิริอินทร์ อายุ 31 ปี ที่อยู่ในหมู่ 1 ต.บางหญ้าแพรก ซึ่งได้ร้องเรียนผ่านมาทางเพจมหาชัยเคเบิลทีวีว่า ตนเองโดนมิจฉาชีพหลอกเงินไป 3 หมื่นบาท โดยที่มาที่ไปนั้น เธอเล่าว่า เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีเฟซบุ๊กที่ใช้รูปโปรไฟล์ของชายชาวต่างชาติเข้ามาเป็นเพื่อน และหลังจากนั้นก็มีการคุยกันผ่านทางแชทของเฟซบุ๊ก โดยเป็นการคุยกันด้วยภาษาไทย

    สำหรับเรื่องขยะในซอยไทยยูเนี่ยน ซอย 11 และ 13 ในเขตตำบลท่าทราย ที่เป็นปัญหานั้น เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทรายได้มีการจัดประชุมกับเจ้าของตึกในซอย โดยมีการส่งหนังสือเชิญทั้ง 233 คูหามาประชุมร่วมกัน แต่มีเจ้าของตึกมาเพียง 26 รายเท่านั้น โดยวันนี้เป็นการคุยกันถึงเรื่องการจัดการขยะเป็นหลักก่อน ซึ่งแต่ละคนก็ได้มีการแสดงความคิดเห็น  ซึ่งสิ่งที่เจ้าของตึกรายหนึ่งเสนอก็คืออยากให้ทาง

สำหรับเธอคนนี้ น.ส.บรรจบ วอนวัฒนา วัย 61 ปี หญิงพิการเป็นใบ้   ในชีวิตไม่เคยมีบัตรประชาชน  เนื่องจากใบเกิดได้ถูกไฟเผาจากเหตุเพลิงไหม้บ้านตั้งแต่เด็ก  ต้องใช้ชีวิตแบบไม่เคยได้รับสิทธิใดๆ ทั้งเบี้ยคนพิการ เบี้ยผู้สูงอายุ รวมถึงสิทธิการรักษาจากโรงพยาบาลของรัฐ และจะไปทำงานตามโรงงานก็ไม่ได้เพราะไม่มีบัตรประชาชน   จนวันนี้ น.ส.บรรจบ ได้มีบัตรประชาชนใบแรกในชีวิตแล้ว จากการจากการช่วยเหลือของนายชาญชัย กุลพงษ์ หนึ่งในสมาชิกเครือข่ายจิตอาสาประชารัฐระดับจังหวัด