Author: MC Cable TV

ที่วัดเจษฎาราม พระอารามหลวง  พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร นำข้าราชการตำรวจสังกัดภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมกิจกรรมโครงการจิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยมีจิตอาสาประเภทงานโยธา เข้าร่วมประมาณ200คน โดยการดำเนินกิจกรรมครั้งนี้  ทางข้าราชการตำรวจที่เป็นจิตอาสางานโยธา ร่วมเก็บขยะและปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบวัดเจษฎาราม  เพื่อให้เกิดความสะอาดสวยงาม พร้อมสำหรับการประกอบพิธีถวายดอกไม้จันทน์ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่

นายประภัสสร์  มาลากาญจน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคง  และความสงบเรียบร้อยจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีหัวหน้า ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยในที่ประชุมได้แจ้งให้ทราบถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดงานพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 โดยให้ทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนเป็นต้นแบบในการแสดงความจงรักภัคดี และเป็นตัวอย่างการจัดงานพระราช พิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพ

การจัดอบรมจิตอาสาเฉพาะกิจ ประเภทงานรักษาความปลอดภัยและงานจราจรของอำเภอกระทุ่มแบน ตามโครงการเราทำความดีด้วยหัวใจ เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้จัดขึ้นที่อาคารเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน โดยมี พล.ต.ต.สุรพงษ์  ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7   พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประดิษฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน  พ.ต.อ.

  จากเหตุการณ์ที่ได้มีล้มพัดอย่างแรง จนทำให้ต้นไทรเก่าแก่ที่อยู่ข้างศูนย์เรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร หักลงมาทับหลังคาศูนย์ดังกล่าว จนทำให้หลังคาแตกเสียหาย ไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาครได้เข้าไปยังที่เกิดเหตุและสำรวจความเสียหาย พบว่าหลังคาแตกเป็นบริเวณกว้าง  จึงได้ประสานของกำลังเจ้าหน้าที่จากทางเทศบาลนครสมุทรสาคร เข้าตัดต้นไม้และนำลงมาจากหลังคาของอาคาร จากนั้นจึงนำแผ่นพลาสติกมาคลุมไว้เพื่อเป็นการป้องกันชั่วคราว  แต่ก็ยังมีน้ำซึมเข้าไปด้านใน ซึ่งก็ทำให้ได้รับความเสียหายบางส่วน โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย ส่วนการลงมือซ่อมแซมนั้นคาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนหน้า สำหรับความรับผิดชอบตอนนี้ยังอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร และได้มีการแจ้งเรื่องไปยังกรมศิลปากรให้ได้รับทราบแล้ว

เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับงานชิ้นสำคัญของวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร กับอนุสรณ์สถานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตั้งอยู่ที่วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร จากความตั้งใจจริงของพระมงคลพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว  เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร และผลงานการปั้นโดยทีมงานฅนสร้างบ้านดิน ซึ่งใช้ระยะเวลาราว 4 เดือน ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็ได้มีการอัญเชิญพระบรมรูปปั้นของในหลวงรัชกาลที่ 9 จากสถานที่ปั้น

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ตุลาคม ทางอำเภอบ้านแพ้วได้จัดพิธีซ้อมย่อยการถวายดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นที่สถานที่จัดพระราชพิธีของอำเภอบ้านแพ้ว นั่นก็คือวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เพื่อให้เกิดความพร้อมสำหรับพระราชพิธีในวันจริง โดยการถวายดอกไม้จันทน์ของอำเภอบ้านแพ้วนั้น จะให้ประชาชนเข้าถวายชุดละ 10 คน โดยจะให้ถวายบนพานที่ตั้งไว้หน้าซุ้ม และจะมีข้าราชในชุดปกติขาวคอยเคลื่อนพานที่เต็มแล้วออก แล้วนำพานเปล่ามาตั้งแทนที่ การซ้อมในวันนี้จึงเป็นการซักซ้อมการเชิญพานสับเปลี่ยน เพื่อให้เกิดความลงตัว ซึ่งวันนี้เป็นการซ้อมครั้งที่ 2

    ที่สนามคิกออฟ อ.เมืองสมุทรสาคร มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลคู่พิเศษเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างทีมตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครที่นำทีมโดย พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กับทีมสื่อมวลชนสมุทรสาครนำทีมโดยนายณัฐวุฒิ เอกจิโรภาส นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร โดยการแข่งขันในครั้งนี้ปรากฏว่ามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงของการแข่งขัน แต่นักเตะทั้งสองทีมก็ไม่หวั่นต่างลงสนามด้วยความสดชื่น เริ่มเกมครึ่งแรกไปได้ประมาณ10นาทีทีมตำรวจสมุทรสาครออกนำไปก่อน1ประตูต่อ0 จากนั้นทีมสื่อมวลชนมาไล่ตีเสมอเป็น1ประตูต่อ1 ต่อมาในครึ่งหลังทางตำรวจสมุทรสาครก็มายิงประตูรำห่างออกไปอีก4ประตูจนมาเป็น5ประตูต่อ1 จากนั้นทีมสื่อมวลชนก็ไม่ลดละไล่ตามตีตื้นมาอีก2ประตูเป็น5ประตูต่อ3 จนกระทั่งก่อนหมดเวลาทีมตำรวจสมุทรสาครก็มาปิดสกอร์อีก1ประตู รวมชนะไป6ประตูต่อ3  

จากที่ได้เริ่มแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้วเมื่อวานนี้ และหลายคนก็ไปใช้สิทธิ์ในเรื่องการซื้อของ ด้วยอัตราวงเงินการซื้อของเดือนละ 200 และ 300 บาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ประชาชนบอกว่า เงินสำหรับการซื้อของดูแล้วจะน้อยไปหน่อย อยากให้ภาครัฐปรับวงเงินเพิ่ม หรืออาจโยกวงเงินสำหรับการเดินทางมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อของจะดีกว่า เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับบัตรก็จะเป็นผู้สูงอายุ ที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหน เงินสำหรับค่ารถจึงไม่จำเป็นต้องใช้ แต่อยากได้เงินสำหรับการซื้อของเพิ่ม เพราะน่าจะเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนี้   ได้มีข่าวออกมาว่า ทางปลัดกระทรวงการคลัง

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา จิตอาสาเฉพาะกิจงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มารวมกันที่ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร สถานที่ที่จะใช้ถวายดอกไม้จันทน์ของอำเภอบ้านแพ้ว เพื่อเตรียมความพร้อมสถานที่ ซึ่งในส่วนของอาคารหลังคาโค้งนั้นได้มีการเตรียมการมาแล้วก่อนหน้านี้ประมาณ 10 วันแล้ว ทั้งการทำความสะอาดโครงสร้างทั้งหมด เพราะเดิมอาคารนี้ใช้งานมานานจึงอาจดูไม่สะอาดเรียบร้อย จึงต้องทำความสะอาด และทาสีใหม่ทั้งอาคาร และวันนี้ก็ได้มีการติดตาข่ายกันนก และผูกผ้าขาวดำ รวมทั้งติดฉากหลังโดยรอบอาคาร นอกจากนั้นก็มีการทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบวัด

ที่ศาลา SML โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านขอม ตำบลโคกขาม   นายวิรัตน์  ไชยสิทธิ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน ได้เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศนียบัตรผู้สูงวัย “ปริญญาชีวิต ผู้สูงวัยรักสุขภาพ”  พร้อมด้วย นายมานะ  เปาทุย  สาธารณสุขอำเภอเมือง  นายสำเริง เลิกบางพลัด รองนายก อบต.โคกขาม  โดยมีนักเรียนผู้สูงวัย จำนวน

 ที่ลานเอนกประสงค์โรงเรียนเทศบาลศรีบุณยานุสสรณ์  นายวุฒิพงษ์      สุภัควนิช  ได้เดินทางมาดำรงตำแห่งนายอำเภอกระทุ่มแบน แทนนายวิรัตน์ ไชยสิทธิ นายอำเภอคนเก่า โดยในโอกาสนี้นายอรุณ มาพิทักษ์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ก็ได้มาให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีกับนายอำเภอกระทุ่มแบนคนใหม่ และยังมีประชาชนจากอำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ได้เดินทางมาร่วมส่งนายอำเภอด้วย