ตำรวจเตรียมทำแผน คนร้ายบุกชิงทองห้างดังกระทุ่มแบน
ตำรวจเตรียมทำแผน คนร้ายบุกชิงทองห้างดังกระทุ่มแบน
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน รับแจ้งมีเหตุปล้นทรัพย์ ที่ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคิณ ศิวเมธากุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รรท.ผกก.สภ.กระทุ่มแบน พ.ต.ท.ชุมพล ฉัตร์สงวนชัย รอง ผกก.ป.สภ.กระทุ่มแบน พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง รอง ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน – ปราบปราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นมีรายงานว่า ภายหลังจากที่คนร้ายลงมือก่อเหตุปล้นทองแล้ว แต่ยังไม่ทันได้หนีออกห้างโลตัส ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบฯ ทราบชื่อต่อมาคือ จ.ส.ต.สุกิจ กล้าสงคราม ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบกำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจรักษาความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่เกิดเหตุ สามารถเข้ารวบตัวไว้ได้อย่างทันควัน และยังได้พลเมืองดีพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ มาช่วยกันล็อกตัวคนร้ายด้วย โดยได้นำตัวคนร้ายไปสอบปากคำที่ สภ.กระทุ่มแบน พร้อมกับอาวุธปืuขนาด 9 มม. แม็กกาซีนที่ตกอยู่หน้าร้านทองพร้อมเครื่องกระสุน และรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาที่ขับมาจอดไว้หน้าห้างโลตัส
จากการสอบถามพนักงานขายของห้างทองฯ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุมีพนักงานอยู่หน้าเคาน์เตอร์ทั้งหมด 5 คน โดยคนร้ายเป็นชายมีลักษณะผอม สูง สวมเสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใส่หมวก สะพายกระเป๋า และมีแมสปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาถึงก็ยกอาวุธปืนขู่พนักงาน แล้วก็กระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปทุบกระจกคว้าสร้อยคอทองคำไปจำนวนหนึ่ง น้ำหนักรวมกันราวๆ 55 บาท หากคิดเป็นราคาซื้อขาย ณ วันนี้ ตกอยู่ที่ประมาณ 3,377,000 บาท ซึ่งพนักงานทุกคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ พอเมื่อเกิดเหตุก็รีบแจ้งไปยังศูนย์ 191 และ กดปุ่มฉุกเฉินทันที
ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นชายคนดังกล่าวมาเดินวนอยู่แถวๆ หน้าร้านทองในห้างโลตัสหลายรอบ ซึ่งทีแรกเป้าหมายน่าจะเป็นร้านทองอีกร้านหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านที่เกิดเหตุ แต่พอสักพักหนึ่งคนร้ายก็เดินกลับมาแล้วก็ลงมือปล้นทองที่ร้านทองแห่งนี้ ซึ่งหลังจากที่คนร้ายคว้าทองกระโดดหนีไป ก็มีตำรวจนายหนึ่งไปดักหน้าเข้าล๊อคตัวคนร้ายไว้ได้
ส่วนพลเมืองดีอีกคน เล่าว่า ตอนนั้นตนอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เห็นตอนที่คนร้ายกระโดดขึ้นไปแล้วก็ใช้ปืนขู่พนักงาน ก่อนจะรีบคว้าสร้อยทองใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก็กระโดดลงมาวิ่งหนีไปทางออกของประตูห้าง แต่ไปเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่วิ่งไปดักหน้าไว้ แล้วเข้าจับตัวคนร้ายอย่างรวดเร็ว ตนและคนที่เห็นเหตุการณ์พร้อมกับตำรวจสายตรวจที่รีบเข้ามาก็ได้ช่วยกันจับกุมตัวคนร้ายอีกแรงหนึ่ง โดยขณะที่คนร้ายถูกจับกุมตัวไว้นั้นเขาก็พูดว่า เขาขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ เขาร้อนเงิน อยู่ 2 – 3 ครั้ง แต่ไม่บอกสาเหตุ
สำหรับคนร้ายรายนี้ทราบชื่อต่อมาคือนายสมพงษ์ อายุ 28 ปี เป็นชาวกรุงเทพมหานคร โดยภาพจากกล้องวงจรปิดชี้ให้เห็นว่า ขณะที่คนร้ายเดินเข้ามานั้น ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนขึ้นขู่พนักงานขายทอง ได้มีการสไลต์ปืน 1 ครั้ง แต่แม็กกาซีนหลุดลงไปที่พื้น โดยคนร้ายไม่รู้ตัว จากนั้นก็กระโดดข้ามไปทุบกระจกคว้าเอาสร้อยคอทองคำที่แขวนอยู่ แล้ววิ่งไปทางประตูทางออก ซึ่งจังหวะที่วิ่งหนีนั้น คนร้ายมีการยกอาวุธปืนขึ้นฟ้าแล้วทำท่าเหมือนจะยิงเพื่อเปิดทางหนี แต่ไม่มีกระสุน กระทั่งไปถูก จ.ส.ต.สุกิจ กล้าสงคราม ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ที่วิ่งไปดักรอข้างหน้าเข้าตะครุบตัวไว้ได้ ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น ทราบว่า คนร้ายได้ลักทรัพย์มาจากผู้อื่น เพื่อนำมาก่อเหตุดังกล่าว และสาเหตุก็น่าจะมาจากติดการพนัน
โดยแหล่งข่าวอจ้งว่าในวันนี้ (10/11/68) ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้คุมตัวคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ
สุเมธ ภาพ/ข่าว



