พรรคภูมิใจไทย
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ของสมุทรสาคร ก็ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครครบทั้ง 3 เขตแล้ว ซึ่งทั้ง 3คน ล้วนแต่เป็นหน้าใหม่ทางการเมืองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเขต 1 นายอภิชัย เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนุสรณ์กรุ๊ป ที่ปรึกษาสมาคมการประมงนอกน่านไทย และอดีตประธานสภาอุตสาหกรรม จ.สมุทรสาคร, ส่วนเขต 2 คือนาง อมรทิพย์ ศรีกลั่น ที่เคยเป็นทั้งปลัดอำเภอเมือง อำเภอกระทุ่มแบน และอำเภอบ้านแพ้ว และเขต 3 ก็คือ นายบูรณะวิทย์ สิทธิศาสตร์ ข้าราชการบำนาญในสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งเหตุผลที่ทั้ง 3 คนตัดสินใจเข้ามาเป็นสมาชิกของพรรคภูมิใจไทย และเดินหน้าสู้ศึกทางการเมืองในครั้งนี้ เพราะชอบแนวคิดนโยบายพรรค ที่เป็นการทำงานให้ประชาชน และเป็นสิ่งที่ตนเองอยากจะทำ เพื่อให้คนไทยอยู่ดีกินดี สร้างงานสร้างอาชีพ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาภาครัฐมาก ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินกดีแบบยั่งยืน
สำหรับนโยบายที่จะมาใช้กับจังหวัดสมุทรสาครนั้น ก็จะเป็นเรื่องของการเกษตร ที่จะสอดคล้องกับเรื่องของการประมง ที่อยากช่วยชาวประมงนอกน่านน้ำและประมงในประเทศที่กำลังประสบปัญหาเรื่องการทำมาหากิน เรือหลายลำต้องจอด ทำให้เกิดผลกระทบตามมาเป็นลูกโซ่ จึงอยากจะหาทางเยียวยาคนกลุ่มนี้ และอยากแก้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมกับชาวประมง รวมถึงพี่น้องเกษตรกรในส่วนอื่นด้วย ที่ต้องการให้พวกเขาได้รับส่วนแบ่งจากการประกอบอาชีพมากที่สุด เรื่องต่อไปก็คือปัญหาที่มาจากการมีโรงงานอุตสาหกรรมที่หนาแน่น ชุมชนหนาแน่น นั่นก็คือเรื่องของขยะ น้ำเสีย ที่มีความตั้งใจว่าจะต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยการใช้เครือข่าย หรือระบบการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ในการแจ้งปัญหา โดยมีศูนย์กลางรับข้อมูลนำไปดำเนินการแก้ไข้ต่อไป ส่วนการจัดการปัญหาขยะอย่างยั่งยื่นมองว่าจังหวัดควรมีโรงเผาขยะอย่างที่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งเรื่องของพลังงาน อยากส่งเสริมเรื่องของพลังงานแสงอาทิตย์เพราะสมุทรสาครมีการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นอันดับ 5 ของประเทศ และมีปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอ เป็นผลมาจากการที่ประเทศไทยไม่มีความมั่นคงด้านพลังงาน รวมถึงเรื่องค่าน้ำประปาของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีเรทราคาที่แพงถึง 30 บาทต่อ1ลูกบาศก์เมตร ที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระค่าน้ำที่หนักมาก จึงอยากที่จะทำให้ค่าน้ำของโรงงานอุตสาหกรรมนั่นลดต่ำลงมาเท่ากับเรทของบ้านเรือน นอกจากนั้นก็คือเรื่องการพักหนี้ กยศ. ปลดภาระผู้ค้ำประกัน อยากให้การเรียนเป็นการเรียนฟรีตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ
ซึ่งนโยบายต่างๆเหล่านี้ก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือเรื่องปากท้องของประชาชนเป็นหลัก ตามนโยบายพรรคภูมิใจไทยที่ ชูสโลแกน “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน” และคิดว่านโยบายของพรรคไม่ใช่การขายฝัน แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เป็นจริงได้ไม่ยาก
เอเซีย / ภาพ พรเพ็ญ / ข่าว