ไฟไหม้

เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ของวันที่ 22 กรกฎาคม 2560 พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เหล็กกล้า สว. สอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บนที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน เลขที่ 38 ตำบลตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับประสานขอรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน และพื้นที่ใกล้เคียงรวมเกือบ 10 คัน เข้าควบคุมเพลิง ก่อนจะไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบว่าเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อยู่บนชั้น 3 ของที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน ซึ่งเป็นห้องทำงานของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้ช่วยกันฉีดน้ำโดยใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง ขณะที่ทางด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอกระทุ่มแบน ก็เข้าตัดไฟเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าช๊อต

โดยทางด้านนายเฉลิมพล บุญแสน อายุ 34 ปี เป็นครูของโรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีบ้านพักข้าราชการอาศัยอยู่ด้านหลังที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน และเป็นผู้แจ้งเหตุเพลิงไหม้ ก็บอกว่า ขณะที่ตนเองกำลังนอนอยู่ในบ้านนั้น ก็ได้ยินเสียงคล้ายกระจกแตกและตกลงพื้น จึงได้ออกมาดูทางหน้าต่างก็เห็นแสงไฟลุกไหม้ขึ้นจากทางด้านหลังของห้องสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

ส่วนทางด้านนายบรรพต จันทรวงศ์ ปลัดอาวุโสอำเภอกระทุ่มแบน บอกในเบื้องต้นว่า สำหรับที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบนนั้น ได้ก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 2535 โดยที่ชั้น 3 ได้แบ่งออกเป็นห้องที่ทำงานของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ , ห้องสัสดีอำเภอ , ห้องวิทยุเก่าสำหรับใช้อุปกรณ์สำนักงานสาธารณสุข และ ห้องประชุม ส่วนห้องที่เกิดเป็นห้องทำงานของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน ซึ่งเป็นเพียงห้องเดียวที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่สาเหตุนั้นก็คาดว่าน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยต้องให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบให้เป็นที่แน่ชัดอีกครั้ง สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากเพลิงสงบลงแล้ว ก็พบว่า ภายในห้องสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบนนั้น ถูกไฟไหม้ทั้งหมด มีทั้งเอกสารสำคัญทางราชการ และอุปกรณ์การทำงาน เครื่องคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน และอื่นๆ ซึ่งต้องให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจต่อไป../

…………………………………………….

ต่อเมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 22 กรกฎาคม 2560 นายวิรัตน์ ไชยสิทธิ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน พร้อมด้วย พ.ต.อ.โกศล ยามา รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เหล็กกล้า สว.สอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ก็ได้นำเจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ โดยได้มีการนำเชือกมากั้นเป็นเขตพื้นที่อันตรายไว้แล้ว ส่วนสภาพของห้องทำงานสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบนนั้น ก็พบว่าถูกไฟไหม้จนเสียหายหมดทั้งห้อง ซึ่งภายในมีอุปกรณ์ที่สำคัญ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลงานสาธารณสุขจำนวน 12 เครื่อง เครื่องโปรเจคเตอร์ 1 เครื่อง เครื่องถ่ายเอกสาร 2 เครื่อง แอร์ติดผนังห้อง 5 เครื่อง ตู้เย็น 1 ตู้ โต๊ะทำงาน และที่สำคัญที่สุดคือ เอกสารของทางราชการทั้งปัจจุบันและย้อนหลัง 10 ปี  จำนวนมาก ถูกไฟไหม้และเปียกน้ำจนไม่สามารถนำมาใช้การอะไรได้อีก โดยขณะที่กำลังตรวจสอบอยู่นั้น ก็พบว่ายังมีบางจุดที่มีควันไฟลอยขึ้นมา จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำน้ำมาฉีดอีก เพื่อป้องกันการประทุ ส่วนทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ก็ได้เข้าตรวจสอบตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะจุดที่มีสายไฟ ที่คาดว่าอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้

นายวิรัตน์ ไชยสิทธิ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่ห้องทำงานสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน ก็ได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัด และกรมการปกครองได้รับทราบแล้ว ซึ่งจากการสำรวจในเบื้องต้นนั้นพบว่า มีส่วนที่เสียหายคือ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเพียงห้องเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ก็คงต้องรอผลสรุปจากการเข้าตรวจสอบหลักฐานที่แน่ชัดจากทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน จึงจะสามารถระบุได้ว่าสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดจากอะไร นอกจากนี้นายวิรัตน์ฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังเหตุเพลิงไหม้สถานที่ราชการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชานั้น ก็ได้มีการแต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการประจำ และ เจ้าหน้าที่ อส.ต้องอยู่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง ในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น จึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จากผู้ที่เข้าเวรประจำวัน โดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ นอกจากนี้ก็ยังได้มีการประสานให้เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง เข้ามาตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารด้วย ส่วนการปรับปรุงซ่อมแซม ก็จะต้องรอการประเมินค่าความเสียหายก่อน จากนั้นจึงจะทำเรื่องเสนอของบประมาณจากกรมการปกครองมาดำเนินการต่อไป../

สุเมธ จันทร์สอาด