ไฟไหม้โรงงาน
เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 25 มิถุนายน 2560 เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริษัท เอช วี พลาส จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 18/23 หมู่ 5 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 30 ไร่เศษ จึง ประสานไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ให้ประสานรถดับเพลิงเกือบ 50 คัน ไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ภายในซอยต้นสน หมู่ที่ 5 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ห่างจากถนนเศรษฐกิจ 1 ประมาณ 500 เมตร โดยเพลิงกำลังลุกไหม้โกดังเก็บสินค้า ขนาดใหญ่บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ภายในมีแผ่นพลาสติกสำเร็จรูปและเสื่อน้ำมันเก็บไว้เป็นจำนวนมาก จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับมีลมพัดแรงมาเป็นระยะๆ ทำให้เพลิงได้โหมลุกไหม้ขึ้นและมีกลิ่นเหม็นฉุนยากต่อการนำน้ำเข้าไปดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ฯ ซึ่งเพลิงก็ได้ทำให้ตัวอาคารด้านหลังพังลงมา
ทั้งนี้ทางด้านของนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุเพื่อพูดคุยถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้จากทางเจ้าของโรงงาน และเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกคน พร้อมกันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาร ยังได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อขอรถน้ำดับเพลิงขนาดใหญ่เข้ามาให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกด้วย ขณะเดียวกันก็ได้สั่งการให้นายวิทยา จันทร์เสนะ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร กระชับพื้นที่เฝ้าดูแลสถานการณ์และควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฯ ตลอดทั้งคืน
เบื้องต้นจากการสอบถามนายชุติเดช วิวัฒนขจรสุข เจ้าของสถานประกอบการ บอกว่า สาเหตุน่าจะมาจากพนักงานเปิดพัดลมโรงงานทิ้งไว้ แล้วลืมถอดปลั๊กไฟออก ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร จากนั้นคาดว่าประกายไฟน่าจะตกลงมาบนแผ่นพลาสติกหรือเสื่อน้ำมันที่เก็บไว้ในโกดัง จึงทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว และยากต่อการใช้น้ำดับเนื่องจากเป็นพลาสติก เมื่อโดนความร้อนจะละลายและจับตัวกันเป็นก้อนเหนียวหนืด อีกทั้งยังเก็บความร้อนไว้ภายในได้ดีอีกด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหลายๆ แห่ง ก็ต้องเร่งระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อดับเพลิงให้เร็วที่สุด พร้อมประสานเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ต่อมาเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 มิถุนายน 2560 หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านมากว่า 10 ชั่วโมงแล้วนั้น ก็ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฯ สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว แต่ยังคงมีเพลิงโหมลุกไหม้อยู่ในโกดัง ซึ่งนายวิทยาฯ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า ยังคงต้องฉีดน้ำต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ประกายไฟที่ลุกอยู่ในตัวอาคารดับลงก่อน ส่วนการใช้โฟมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้มีการนำรถโฟมมารอพร้อมตลอดเวลา แต่ที่ไม่ได้ใช้เพราะว่า หากฉีดโฟมลงไปบนหลังคาของตัวอาคารที่ไม่มีประกายไฟพุ่งขึ้นมา ก็จะไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น แต่ในช่วงสายของวันนี้ก็จะลองฉีดโฟมดูก่อน 1 คันรถ หากเป็นผลดีก็จะฉีดต่อไปอีกเรื่อยๆ เพื่อให้เปลวไฟที่พุ่งขึ้นมาดับลงก่อน จากนั้นก็จะต้องมีการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปตลอดทั้งวัน เพราะด้วยพลาสติกที่ถูกไฟไหม้นั้นจะจับกันเป็นก้อน ทำให้ความร้อนยังคงระอุอยู่ด้านล่าง
นายชุติเดช วิวัฒนขจรสุข เจ้าของโรงงาน บอกว่า หลังจากที่เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นนั้น ก็ได้มีการเรียกพนักงานที่ดูแลโกดังเก็บสินค้ามาสอบถามแล้ว โดยพนักงานทุกคนยืนยันว่า ก่อนปิดโกดังได้ทำการถอดปลั๊กไฟทั้งหมดออก และหัวหน้าผู้ควบคุมก็ได้ตรวจตามระเบียบของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อย จึงเชื่อได้ว่าสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่จะเกิดขึ้นจากตรงจุดไหนนั้น ก็ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหลังจากที่เพลิงสงบและความร้อนภายในตัวอาคารเย็นลง โดยได้สั่งให้พนักงานหยุดงานไปก่อน เพื่อรอให้โกดังที่เกิดเพลิงไหม้ดับลงและคลี่คลายสถานการณ์ให้เรียบร้อย ส่วนค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำว่า 100 – 200 ล้านบาท เพราะภายในตัวอาคารนั้น แม้จะไม่ได้มีกระบวนการผลิต แต่ก็มีทั้งเครื่องจักรที่สั่งเข้ามาใหม่เพื่อรอการติดตั้งจำนวนหลายตัว วัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่เพิ่งสั่งเข้ามาเช่นเดียวกัน และยังมีแผ่นพลาสติก กับ เสื่อน้ำมันจำนวนมากที่ผลิตแล้วเพื่อรอการส่งออก
สำหรับโรงงานแห่งนี้ได้แบ่งพื้นที่การทำงานแยกออกเป็นทั้งหมด 4 ตัว อาคาร โดยเคยเกิดเพลิงไหม้ขึ้นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ตัวอาคารในส่วนของกระบวนการผลิต ในซึ่งในครั้งนั้นก็เสียหายเกือบ 300 ล้านบาท แต่หลังจากที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้ 1 ปี โดยในเดือนพฤษภาคม 2558 นั้น เมื่อทางโรงงานกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็ได้เป็นผู้ที่มอบแผ่นพลาสติกและเสื่อน้ำมันเกือบ 3,000 ม้วน ให้กับทางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อส่งมอบให้กับประเทศเนปาล เมื่อครั้งเกิดภัยพิบัติ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ต่อเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 26 มิถุนายน 2560 ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน เข้ามาช่วยในการอำนวยความสะดวกและดำเนินการในการดับเพลิง ซึ่งทางด้าน พ.จ.อ.อัษฎางค์ วิเศษวงษา ปลัดเทศบาลตำบลนาดีปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนาดี ที่ได้ลงพื้นที่ไปที่บริษัทเอช วี พลาส จำกัด เปิดเผยว่าจากเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่ตำบลนาดี นั้นทางเทศบาลได้ดำเนินการระดมสรรพกำลังที่อยู่รอบด้านเต็มที่แล้วและได้ทางเทศบาลนครปฐมนำรถน้ำมาช่วยอีก โดยตอนนี้ก็สู้อยู่16ชั่วโมงแล้ว และขณะนี้เราได้ใช้รถแบ็กโฮเพื่อเปิดหลังคา เพื่อคุ้ยเอาสารเคมีออกและจะเอารถน้ำเข้าไปอีกครั้งโดยคาดว่าอีก2ชั่วโมงน่าจะจบ สำหรับในเรื่องความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เทศบาลได้ประชาสัมพันธ์ประกาศให้ประชาชนที่อยู่รอบด้านอพยพให้ออกไปให้พ้นรัศมีก่อนและเมื่อเสร็จแล้วค่อยเข้ามาได้ โดยขณะนี้พบว่ากลุ่มควันได้ลอยเป็นวงกว้างและกระแสลมเปลี่ยนทิศอยู่เรื่อยๆ ซึ่งในรัศมี1กิโลในรอบด้านคาดว่าประชาชนจะปลอดภัยแน่นอน และสำหรับประชาชนที่สูดคมควันพิษเข้าไปมากๆก็จะมีอาการแสบคอ เป็นอันตรายได้ ดังนั้นถ้ามีอาการดังกล่าวก็ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำและเช็ดหน้าทันทีหรือหลบไปให้ไกลจากพื้นที่ดังกล่าว
สุเมธ/ภาพ/ข่าว
