ไฟไหม้ซ้ำสองโรงงานรีไซเคิลแผ่นยาง

เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 14 กันยายน  ร.ต.ท.สุวิทย์ มูลทรงเกียรติ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่โรงงานรีไซเคิลแผ่นยางและพลาสติก ตั้งอยู่เลขที่ 18/13 หมู่ที่ 5 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกับประสานรถดับเพลิงทั้งจากในพื้นที่และตำบลใกล้เคียง โดยต้องมีการระดมรถน้ำกว่า 10 คัน เข้าฉีดเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

เบื้องต้นพบว่าโรงงานแห่งนี้ มีนายแคน ชาวใต้หวันเป็นเจ้าของ และโรงงานแห่งนี้เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 7 กันยายน  ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนี้เพลิงนั้นได้ลุกไหม้ขึ้นที่กองแผ่นยางและพลาสติกด้านในของโรงงานและลุกลามไปทางด้านหลัง ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้นั้นก็ไม่มีใครรู้ แต่คาดว่าอาจจะมาจากเม็ดโฟมที่เก็บไว้ภายในโรงงาน เนื่องจากวัตถุดิบเหล่านี้มีประจุไฟฟ้าในตัวเอง ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตขึ้นได้

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ประสานกับเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงไปติดตามความคืบหน้าในการเข้าคลี่คลายที่เกิดเหตุ ซึ่งก็พบว่าทางเทศบาลตำบลนาดี  ได้ประสานกับรถน้ำดับเพลิงของ อบต.บ้านเกาะ จัดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพร้อมกับรถแบ็คโฮขนาดเล็ก เข้าไปขุดลงไปให้ถึงด้านล่างของกองเม็ดยาง แผ่นยาง และพลาสติกขนาดใหญ่ออก เพื่อให้สามารถฉีดน้ำลงไปถึงด้านล่างได้ โดยขณะที่ใช้รถแบ็คโฮขุดลงไปที่ด้านล่างของกองเม็ดยางนั้น ก็มีปรากฏว่ามีควันไฟลอยออกมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้น้ำฉีดเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อให้เป็นการดับความร้อน ขณะที่ในส่วนของคนงานก็ได้ช่วยกันขนย้ายข้าวของอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่พอจะใช้กำลังคนยกได้นั้น เคลื่อนย้ายออกมาด้านนอกโรงงาน

จากการสอบถามนายแคน ชาวใต้หวัน เจ้าของโรงงานที่อยู่ในสภาพร่างกายเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยควันดำ บอกว่า โรงงานนี้หลังไฟไหม้ครั้งแรกก็ยังไม่สามารถจะทำงานอะไรได้ เพราะว่าถูกตัดไฟฟ้ายังไม่มีการติดตั้งใหม่ จึงไม่สามารถใช้เครื่องมือใดๆ ในกระบวนการผลิต ซึ่งตนเองก็นอนอยู่ไม่ห่างจากกองเม็ดยางซึ่งเป็นจุดที่เกิดไฟไหม้ในครั้งนี้  แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ซ้ำสองได้อย่างไร ส่วนกองเม็ดยางที่เป็นต้นเพลิงของการเกิดไฟไหม้ครั้งที่ 2 จนเสียหายหมดทั้งโรงงานนั้น เป็นวัสดุสำคัญที่ใช้ในกระบวนการผลิตหญ้าเทียมสำหรับสนามฟุตซอล ซึ่งค่าเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และอาจจะเลิกกิจการไปเลยก็ได้../

สุเมธ/ภาพ/ข่าว