แพทย์ยันทำตามขั้นตอน

AD-WEB-NET-แก้ไข-14-6-60-7

 

พี่เมธ รพ1

เทป          เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 2 สิงหาคม 2560 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชน พร้อมด้วย นายอภิรมย์ แก่นสาร อายุ 25 ปี หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ จนต้องถูกตัดขาทิ้ง เพียงเพราะแค่ไม่มีเงินจำนวน 1 แสนบาท มาจ่ายให้กับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างว่าแพทย์ทำการเรียกร้องค่ารักษา  ที่ได้มีการเสนอข่าวไปนั้น ก็ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลฯ พร้อมกับญาติๆ เพื่อรับฟังการชี้แจงแนวทางการรักษาทางการแพทย์ และขั้นตอนในการดูแลเยียวยาจิตใจคนไข้ โดยได้เข้าพบกับ นายแพทย์มงคล วณิชภักดีเดชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิชัยเวชอินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลฯ เอกชนที่ถูกกล่าวถึง และในการนี้ก็มีคณะทีมแพทย์ผู้ชำนาญงานมาร่วมชี้แจงด้วย แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปรับฟังการพูดคุยระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยใช้เวลาชี้แจงและพูดคุยกันนานกว่า 2 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 น. จึงได้ออกมาจากห้องประชุม และแต่ละฝ่าย ทั้งทางด้านคนไข้กับทนายความ และ ทางคณะผู้บริหารโรงพยาบาล ต่างฝ่ายต่างก็ได้แยกย้ายกันให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งผลสรุปคือก็ยังหาข้อยุติที่ลงตัวร่วมกันไม่ได้

พี่เมธ รพ2

นายอภิรมย์ แก่นสาร บอกว่า ตนเองรู้สึกยังไม่พอใจกับสิ่งที่ทางโรงพยาบาลฯ ออกมาชี้แจง เพราะโรงพยาบาลบอกให้รับทราบเพียงแค่ขั้นตอนการรักษาทางการแพทย์เท่านั้น ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ก็ยืนยันว่าทำถูกต้องแล้วทุกอย่าง ส่วนเรื่องการเรียกเงินแสนนั้น โรงพยาบาลไม่ได้พูดถึง แต่บอกเพียงแค่ว่าหากแพทย์พูดจริงก็ถือว่าไม่มีจรรยาบรรณของแพทย์เท่านั้น และยืนยันว่าได้ทำถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบเยียวยาแต่อย่างใด และไม่ได้มีการนัดมาพูดคุยใดๆ อีก ซึ่งก็ทำให้ตนและครอบครัวเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ว่าทำไมคณะผู้บริหารฯ ถึงไม่พาแพทย์ที่ทำการตรวจรักษาในวันนั้น มาพูดคุยด้วย ซึ่งพอถามถึงทางโรงพยาบาลก็บอกว่า แพทย์คนดังกล่าวเป็นแพทย์ พาร์ทไทม์ และทำไมเมื่อตรวจสอบสิทธิ์เจอว่า ตนเองมีสิทธิ์อยู่ที่โรงพยาบาลมหาชัย 2 ถึงไม่ส่งตัวไปทันที อีกทั้งตรวจวินิจฉัยอย่างไร ทำไมถึงไม่พบว่าเส้นเลือดที่ขาขาด ซึ่งตรงนี้ก็คงจะเดินหน้าสู้ต่อไป เพื่อขอความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับตนเองและคนในครอบครัว โดยต้องขอให้ทางทีมงานทนายประชาชนเป็นผู้ช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย เพราะพวกตนไม่มีเงินและไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด  หรือ ทนายตั้ม ก็บอกว่า หลังจากที่รับฟังการชี้แจงแล้ว ก็จะได้ไปศึกษาข้อกฎหมายก่อน แต่ที่ศึกษามาก่อนหน้านี้พบว่า มีฎีกาอยู่ว่าถ้าโรงพยาบาลไม่รักษาคนไข้ ทางคนไข้สามารถที่จะฟ้องละเมิดได้ ซึ่งเคยมีเกิดขึ้นแล้วที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ดังนั้นก็จะนำเคสดังกล่าวมาเป็นเคสตัวอย่าง เพื่อเดินหน้าในเรื่องคดีและการช่วยเหลือครอบครัวของน้องคนไข้ต่อไป

ส่วนทางด้านของนายแพทย์มงคล วณิชภักดีเดชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิชัยเวชอินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย ก็ได้ตั้งโต๊ะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า  ทางโรงพยาบาลได้ให้การดูแลตามกระบวนการทางการแพทย์ที่ถูกต้องทุกขั้นตอน และผู้บาดเจ็บมีอาการลมออกจากปอดขั้นรุนแรงทำให้เสียชีวิตได้ จึงต้องทำการรักษาก่อน อีกทั้งยังได้มีการตรวจเอ็กซเรย์ส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่คาดว่าจะได้รับความกระทบกระเทือนด้วย ขณะที่เรื่องของกระดูกหักนั้นไม่ได้มีแผลฉีกขาด จึงสามารถทำการรักษาที่หลังได้ และต่อมาก็พบว่า ที่ปลายเท้าผู้บาดเจ็บมีอาการชาและเริ่มเขียวบวม จึงได้ทำการตรวจ พบว่า เส้นเลือดที่ขาขาด ก็ได้เรียกทางครอบครัวมาชี้แจงให้ฟัง ซึ่งหากนำผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า โดยทางครอบครัวก็ยินดีให้ส่งตัวไปรักษา

นายแพทย์มงคลฯ ยืนยันว่า ในขั้นตอนการรักษาจากทีมแพทย์โรงพยาบาลวิชัยเวชฯนั้น ทำถูกต้องทุกอย่าง ทุกขั้นตอน ส่วนผลที่ออกมานั้นแพทย์ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว  อย่างเช่นในกรณีคนไข้รายนี้ แพทย์ทำถูกต้องทั้งหมด จึงไม่ต้องรับผิดชอบที่จะต้องเยียวยาผู้เสียหาย แต่ทั้งนี้ก็จะได้มีการปรึกษาหารือกับทางคณะผู้บริหารฯ ระดับสูงอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหรือไม่ โดยหลังจากเป็นข่าวออกไปแล้ว ทางโรงพยาบาลฯ ก็รู้สึกว่าอยากจะชี้แจงให้สังคมรับทราบการทำงานของแพทย์บ้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่โรงพยาบาล

สุเมธ /ภาพ/ข่าว