เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ชี้ความพยายามของสมุทรสาครช่วยยกระดับ Tier

พี่เมธ ทูตเยือน 1

นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมภริยาและคณะ  ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อพบปะหารือและรับฟังข้อมูลของจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายอำพล  อังคภากรณ์กุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัด     รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้การต้อนรับ โดยทางด้าน   นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า การมาเยือนจังหวัดสมุทรสาครในครั้งนี้ ก็เพื่อมาเรียนรู้เกี่ยวกับสมุทรสาคร และสถานการณ์ต่างๆ โดยในการนี้ ได้มีการปรึกษาหารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเกี่ยวกับเรื่องโอกาสและการส่งออกสินค้าจากจังหวัดสมุทรสาคร  รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับความพยายามของจังหวัดที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานต่างด้าวและแรงงานย้ายถิ่นฐานให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ทางจังหวัดซึ่งได้ทำร่วมกับภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาสังคมในพื้นที่  เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่และการพัฒนาเศรษฐกิจดียิ่งขึ้น ซึ่งก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับทราบถึงความพยายามของจังหวัดในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อก้าวเดินไปสู่การพัฒนาสินค้าไทยเพื่อการส่งออกอย่างยั่งยืน

พี่เมธ ทูตเยือน 2

สำหรับในส่วนของจังหวัดสมุทรสาครนั้น ทางเอกอัครราชทูตยังบอกอีกว่า แม้จังหวัดสมุทรสาครจะเป็นเพียงจังหวัดเล็กๆ แต่ได้เห็นถึงบทบาทที่มีความสำคัญอย่างสูงต่อการปกป้องประเทศและการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ   ตั้งแต่อดีตสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา และในปัจจุบันนี้ชาวจังหวัดสมุทรสาคร  ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาประเทศไทยในภาพรวม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของสมุทรสาคร ช่วยสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น  ส่วนคนสมุทรสาครนั้นก็ต้องทำงานหนักมาก ในการช่วยกันปกป้องและรักษาสิทธิของแรงงานต่างด้าว และแรงงานย้ายถิ่นฐาน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่เฉพาะต่อชื่อเสียงของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงอนาคตของประเทศไทยด้วย

พี่เมธ ทูตเยือน 3

ส่วนเรื่องการเดินหน้าเพื่อให้การส่งออกสินค้าประมงเป็นไปอย่างยั่งยืนนั้น  ขณะนี้หลายฝ่ายก็ได้เห็นการทำงานของทางจังหวัดสมุทรสาครที่ได้ดำเนินการอยู่แล้ว สิ่งสำคัญก็คือเรื่องของการปฏิบัติตาม IUU Fishing ที่นอกจากจะช่วยกำจัดเรื่องการทำประมงที่ผิดกฎหมายให้หมดไปได้แล้ว  ยังจะช่วยรักษาและปกป้องสิทธิต่างๆ ของชาวประมงและแรงงานในเรือประมง  รวมถึงครอบครัวและเด็กต่างด้าวได้ด้วย ซึ่งก็จะช่วยทำให้อุตสาหกรรมในภาพรวมแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันผู้ที่จะซื้ออาหารทะเลจากทั่วโลก ก็ต้องการที่จะรู้ถึงแหล่งที่มา และรู้ว่าอาหารทะเลที่บริโภคนั้น เกี่ยวข้องกับเรื่องการประมงที่ผิดกฎหมายหรือไม่ โดยหลังจากที่ได้หารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ก็จะนำข้อมูลทั้งหมดนี้ไปพูดคุยกับ  ภาคประชาสังคมและผู้บริหารหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครเกี่ยวกับเรื่องการค้ามนุษย์ด้วย

ขณะที่ Tier นั้น ณ วันนี้หลังจากที่ประเทศไทยได้รับการยกระดับจาก Tier 3 ขึ้นมาเป็น Tier 2 Watch List แล้ว   ในช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมา  ก็ได้เห็นทั้งรัฐบาล ภาคเอกชนและภาคประชาชนของไทย  ทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง ในการที่จะทำให้สถานะของประเทศไทยดีขึ้น จึงนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง  ที่ประเทศไทยได้รับการยกระดับขึ้นมาแล้ว และแน่นอนว่าเรื่องที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้ในช่วงที่ผ่านมา และเรื่องที่จะต้องรับรู้ในอนาคตข้างหน้า  ก็จะมีการรายงานกลับไปที่ กรุงวอชิงตันฯ สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการประเมิน Tier ในครั้งต่อไป

สุเมธ/ภาพ/ข่าว