เยาวชนนับ10คน ก่อเหตุทำลายตู้น้ำมันหยอดเหรียญ

จากกรณีที่คุณวนัสพร เขียวคำ ได้โพสต์คลิปกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อม ระบุว่า เด็กกลุ่มนี้มาเติมน้ำมันตู้หยอดเหรียญข้างร้านแต่หยอดเงินไม่ถึง 10 บาท พอน้ำมันไม่ออกก็ถีบตู้ แถมเอาแกลลอนน้ำมันฟาดตู้จนเสียหาย ซึ่งได้มีการแจ้งความเอาผิดแล้ว ผู้สื่อข่าวของเราจึงเดินทางไปที่ร้านขายของชำเลขที่ 38 หมู่ 8 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อพบกับนางวนัสพร เขียวคำ คนดูแลร้าน ซึ่งก็บอกว่าในคืนเกิดเหตุ ตนเองนอนอยู่ในร้าน ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงโครมครามเสียงพูด เสียงตะโกน หัวเราะดังลั่นอยู่บริเวณหน้าตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ก็คิดในใจแล้วว่าน่าจะเกิดเหตุการณ์ทำลายทรัพย์สิน แต่เป็นในช่วงกลางดึกไม่กล้าออกมาดู เกรงว่ากลุ่มคนที่มาก่อเหตุจะมีอาวุธ สิ้นเสียงดังกล่าวก็ ได้ยินรถจักรยานยนต์หลายคันขับขี่ออกไปจากร้าน มุ่งหน้าเข้าไปที่สะพานแดง แต่สักพักกลุ่มเด็กวัยรุ่นดังกล่าวก็กลับเข้ามาหยอดเหรียญเติมน้ำมันอีก หลังจากนั้นตนจึงออกมาสำรวจ พบว่าตู้น้ำมันหยอดเหรียญแก๊สโซฮอล์ 95 ได้รับความเสียหาย เศษกระจกแตกเกลื่อน เปิดกล้องวงจรช่วงเวลา 02.30น.ก็พบกับเหตุการณ์ดังกล่าว สาเหตุที่เด็กกลุ่มนี้ทำลายตู้ เมื่อฟังจากคลิปก็รู้ว่าหยอดเงินไม่ครบตามจำนวนน้ำมันจึงไม่ไหล เพราะต้องหยอดขั้นต่ำ10บาท ส่วนทางด้านนายสายชล ยศวิลัย เจ้าของร้านบอกว่าหลังจากเกิดเหตุสภาพการใช้งานของตู้ไม่เหมือนเดิมระบบรวน จึงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาดำเนินการ เปลี่ยนตู้ใหม่ นายสายชลยังบอกอีกว่าตู้น้ำมัน, เครื่องซักผ้า, ตู้เติมเงิน, ตู้น้ำดื่มทั้งหมดเป็นระบบหยอดเหรียญตนเองได้ติดตั้งให้บริการมาได้ประมาณ 5 ปีกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์ งัด/ตัดกล่องหยอดเหรียญ บางครั้งก็ตัดสายน้ำมันไป เหตุการณ์ซ้ำๆเกิดขึ้นบ่อย จากที่เมื่อก่อนเคยมีโต๊ะไว้ให้ลูกค้านั่ง ก็ต้องยกออกไป เพราะช่วงกลางดึกจะมีกลุ่มวัยรุ่นมานั่งและก่อความวุ่นวาย เสียงดังรบกวน ทำลายข้าวของรวมถึงโต๊ะด้วย จึงตัดสินใจให้ช่างมาติดตั้งกล้องวงจรได้ประมาณ 1 ปีและในครั้งนี้ก็สามารถจับพฤติกรรมของเยาวชนกลุ่มนี้ได้อย่างชัดเจน นำไปสู่การแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรโคกขามแล้ว ซึ่งแต่ละคนดูแล้วน่าจะอายุต่ำกว่า18ปี

โดยจากนี้ไปก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจตราดูแลความปลอดภัยในช่วงกลางคืนบ้าง เพราะบริเวณดังกล่าวค่อนข้างเปลี่ยวและเงียบ ล่าสุดได้มีพลเมืองดีติดต่อมาบอกว่าเคยพบเห็นเด็กกลุ่มดังกล่าวอยู่ในพื้นที่บางกอกใหญ่ อีกทั้งได้มีการประสานมาจากผู้ปกครองของเด็กว่าจะพาเด็กมาขอโทษและชดใช้ค่าเสียหาย แต่แล้วก็เงียบหายไม่ติดต่อมาอีกเลย ตนเองก็รออยู่ เพราะจะต้องเสียเงินค่าซ่อมแซมตู้น้ำมันหยอดเหรียญ พร้อมทั้งฝากถึงเด็กๆกลุ่มดังกล่าวว่าอย่าไปก่อเหตุเช่นนี้อีกเพราะจะทำให้พ่อแม่ต้องมาเดือดร้อนไปด้วย

สุเมธ/ภาพ/ข่าว