เปิดคลิป

จากเหตุการณ์รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนรถสองแถว แล้วพุ่งชนรถ 10 ล้อที่จอดอยู่ข้างทาง บนถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ จ.สมุทรสาคร ทำให้ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ศพ คือ ด.ต.ณัฐกฤษ รังษีบุตร  ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ตำรวจทางหลวง1 กองกำกับการ2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง  ซึ่งกำลังยืนปฏิบัติหน้าที่ กับ นายทวี คุณาบุตร ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่นั่งมาด้านหน้ารถสองแถวนั้น

ความคืบหน้าต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้รับความอนุเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดของศูนย์รถมือสองศักดาออโต้คาร์ ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ ทำให้เห็นว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ขับรถยนต์ตราโล่ มาจอดข้างทาง แล้วก็มีรถสิบจอดตามด้านหลัง จากนั้นด.ต.ณัฐกฤษ รังษีบุตร ได้เดินลงจากรถมาหาคนขับรถบรรทุกสิบล้อก่อนเป็นคนแรก ส่วนเพื่อนตำรวจอีกคนที่เป็นผู้ขับรถนั้น ได้เดินตามลงมาทีหลัง ซึ่งขณะที่ดาบตำรวจณัฐกฤษ กำลังยืนเขียนใบสั่งอยู่ด้านหน้ารถสิบล้อก็ปรากฎว่า มีรถโดยสารประจำทางสีฟ้าขับมาเลนส์ซ้ายสุดและขับคู่มากับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เมื่อมาถึงตรงที่รถบรรทุกสิบล้อจอดอยู่ก็ถูกรถบรรทุกพ่วงชนอย่างแรง จนรถโดยสารประจำทางพุ่งชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อที่จอดอยู่ แล้วรถบรรทุกสิบล้อก็พุ่งชนเสยดาบตำรวจณัฐกฤษ พร้อมกับไหลขึ้นไปชนบนการ์ดเลนส์ ส่วนรถสองแถวถูกชนจนพังยับพลิกคว่ำอยู่หลังรถบรรทุกสิบล้อนั่นเอง ขณะที่ศพของดาบตำรวจณัฐกฤษ รังษีบุตร  นั้น จะได้นำไปทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่วัดหนองขาม ต.หนองขาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี

และในเมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 ที่บริเวณริมถนนพระราม 2 ตรงจุดเกิดเหตุที่ ด.ต.ณัฐกฤษ รังษีบุตร  ถูกรถพุ่งชนจนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตโดยนายทองนาค รังษีบุตร บิดา พร้อมด้วย นางสวิง รังษีบุตร มารดา นางนิสา รังสีบุตร ภรรยา และ เด็กชายกองปราบ รังษีบุตร อายุ 3 ปี บุตรชายผู้เสียชีวิต ตลอดจนญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ตำรวจทางหลวง กับเพื่อนตำรวจกองปราบปราม ได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของ ด.ต.ณัฐกฤษ รังษีบุตร กลับไปยังบ้านเกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งขณะที่ทำพิธีนั้นผู้เป็นมารดาและภรรยาก็ร้องไห้เสียใจอย่างหักห้ามใจไม่ได้ ส่วนบุตรชายที่อายุ 3 ขวบ ก็มีสีหน้าเศร้าสร้อยกอดแม่ตลอดเวลา โดยหลังจากทำพิธีประมาณ 20 นาที ทั้งหมดก็ได้ขึ้นรถแยกย้ายกัน ซึ่งส่วนหนึ่งเดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลตำรวจ และอีกส่วนหนึ่งเดินทางกลับไปที่วัดหนองขาม จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อรอรับศพประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

ขณะที่ทางด้านคดีนั้น ร.ต.อ.อะลาม ครุฑจู ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางโทรัด ก็บอกว่า หลังเกิดเหตุทางคนขับรถพ่วง 18 ล้อได้หลบหนีไปที่บ้านญาติในจังหวัดชัยภูมิ แต่ต่อมาก็ได้มีการติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว โดยเบื้องต้นจะเข้ามอบตัวในวันพรุ่งนี้ แต่ทางตำรวจก็ได้เร่งให้มามอบตัวอย่างเร็วที่สุด   ส่วนทางเจ้าของบริษัทรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อนั้น ได้มีการติดต่อกับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว เพื่อขอชดใช้ค่าเสียหายและดูแลเยียวยาในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เข้าตรวจสอบรถทุกคันที่เกิดเหตุ เพื่อนำหลักฐานมาประกอบสำนวนคดี ก่อนที่จะสรุปสาเหตุและตั้งข้อกล่าวหาแก่ผู้กระทำผิดต่อไป แต่เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาไว้ก่อนว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย

สุเมธ/ภาพ/ข่าว