เจ้าของวอนหัวขโมยให้ตั้งใจทำมาหากิน อย่ามาเบียดกันเลย

เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 12 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายประจักษ์ ดิษฐ์เอม อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเปิดร้านพลอยจ๋ามินิมาร์ท อยู่ที่ซอยพันธุวงศ์หมู่ 6 ตำบลนาดี ซึ่งประจักษ์ฯ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าภรรยาของตนได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมภาพกล้องวงจรปิดของร้านที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของหญิงอายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อยืดคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีเเดง สวมกางเกงขาสั้น ผมสีทองยาวถึงหลัง รูปร่างเล็กผิวคล้ำใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิแบบผู้หญิง  หมายเลขทะเบียนเท่าที่จำได้คือ 3332 เดินทางมากับเด็กชายอายุประมาณ 2 ขวบ เข้ามาจับจ่ายเลือกซื้อของภายในมินิมาร์ทเหมือนกับลูกค้าทั่วไป และใช้จะหวะหนึ่งยัดของบางอย่างเข้าไปในเสื้อ  โดยนายประจักษ์ฯเล่าเพิ่มเติมว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งหลายหน ทั้งจับได้และจับไม่ได้ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ก่อเหตุมักจะสวมเสื้อคลุม หรือสะพายกระเป๋าเป้ กล้องวงจรปิดที่ติดไว้ในร้านจํานวน 16 ตัวหน้าร้านอีก 2 ตัวเหมือนไม่มีความหมาย หัวขโมยไม่รู้สึกเกรงกลัว ไม่สะทกสะท้านใดๆเลย เวลาจับได้ก็ร้องไห้บีบน้ำตา พาพ่อแม่ญาติพี่น้องมาอ้อนวอน ไม่ให้เอาความ ตนก็ให้อภัยมาโดยตลอด บางครั้งหัวขโมยก็ขโมยแม้กระทั่งสินค้าชิ้นใหญ่ คือ ชุดเครื่องนอน อุปกรณ์หนีบผม

และสาเหตุที่ตนโพสต์ เฟซบุ๊กในครั้งนี้ก็เพื่ออยากเตือนภัยไปยังร้านมินิมาร์ทและร้านค้าทั่วไปให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ ที่อาจจะแฝงมาในทุกรูปแบบ เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ซึ่งใช้เด็กบังหน้า และอยากบอกกับมิจฉาชีพที่มาขโมยของในร้านของตนว่าอย่าเบียดเบียนกันเลย ให้รู้จักทำมาหากินอย่าสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และต่อจากนี้ตนก็จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการดำเนินการกับพวกหัวขโมยทั้งหลายที่เข้ามาก่อเหตุครั้งต่อไป

สุเมธ/ภาพ/ข่าว