เขม่าลอยตลบบ้านเอื้ออาทรนาดี

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ชาวชุมชนที่พักอยู่ในโครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ 4 ตำบลนาดี ได้ร้องผ่านสื่อ และร้องเรียนไปยังผู้นำท้องถิ่นในเขตนาดี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานที่อยู่ใกล้เคียง ที่ได้ปล่อยเขม่าควันที่มีลักษณะเป็นละอองสีดำ ออกมา และกระจายอยู่ทั่วบริเวณในหมู่บ้านเอื้ออาทร ทำให้รถที่จอดไว้ถูกเขม่าที่ลอยออกมาจับเกาะติดไปทั่วทั้งรถ และเมื่อเอามือไปถูกก็จะเป็นครบเปื้อนคล้ายน้ำมัน นอกจากนั้นแล้วห้องพักบางห้องก็ยังมีเขม่าลอยเข้าไปข้างในด้วย ส่วนบริเวณพื้นที่โล่งก็มีเขม่าสีดำนี้ กระจายอยู่ทั่วบริเวณ

และจากการได้พูดคุยกับผู้พักอาศัยก็บอกว่า ที่ผ่านมาก็มีเขม่าลักษณะนี้ลอยมาอยู่บ้างแต่ไม่มากเท่าครั้งนี้ และหากห้องไหนที่ไม่มีมุ้งลวด ฝุ่นเขม่าก็จะลอยเข้าไปเยอะ บางทีผ้าที่ตากไว้ก็มีเขม่าแบบนี้มาจับ แต่วันนี้เขม่ามีมากจนทำให้รู้สึกว่าผิดสังเกต ซึ่งก็ทำให้ผู้พักอาศัยหลายคนเดือดร้อน นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามไปยังเจ้าของรถที่ถูกเขม่าลอยมาติดบอกว่า เขม่าที่เห็นเริ่มลอยออกมาตั้งแต่ก่อนเช้า และมีปริมาณมากสังเกตได้ว่าลอยอยู่ในอากาศ และค่อยๆปลิวร่วงลงพื้น ซึ่งรถใครที่จอดอยู่ก็จะมีสภาพแบบนี้ และก็ไม่สามารถเช็ดออกได้ เพราะจะทำให้คราบติดแน่น ต้องเป่าออกด้วยลมอย่างเดียว

ซึ่งต่อมา นางสาววนัชพร น้อยหุ่น ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ของบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น ฟูดส์ จำกัด ก็ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่และยอมรับว่าเป็นบริษัทที่ปล่อยเขม่าควันออกมา โดยเรื่องนี้เกิดจากความขัดข้องของบอยเลอร์ที่ใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งโรงงานได้หยุดต่อเนื่องมาหลายวัน และทดลองเดินเครื่องเมื่อตอนกลางคืน จึงทำให้มีเขม่าลอยออกมา ทั้งนี้ทางบริษัทจะเข้ามารับผิดชอบหาทางกำจัดคราบเขม่าที่ติดตามรถ, เขม่าที่ปลิวไปบนตึก และที่ร่วงหล่นตามพื้นด้วย ซึ่งในเวลาต่อมาปลัดเทศบาลตำบลนาดี, เจ้าหน้าที่ จาก กอ.รมน.จังหวัดสมุทรสาคร,  ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบ บริษัทดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทมาชี้แจงถึงเหตุที่เกิดขึ้น โดยทางบริษัทได้ยอมรับว่าเป็นต้นเหตุของเขม่าที่ปลิวออกไปจริง โดยเมื่อพบว่ามีเขม่าลอยออกไปมากก็ได้หยุดเดินเครื่องทันที  ซึ่งหลังจากนี้ก็จะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่ลงตรวจได้ให้เวลาในการดำเนินการการ 30 วัน หลังจากนั้นจะต้องมีการทดสอบว่าระบบทำงานได้ดี จึงจะสามารถเดินเครื่องได้ และนอกจากนี้ทางตัวแทนชาวบ้านที่เดินทางเข้ามาร่วมตรวจโรงงานในครั้งนี้ยังได้ฝากให้โรงงานดำเนินการตรวจสอบระบบแอมโมเนียให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเข้ามา ซึ่งทางโรงงานก็รับปากว่าจะดำเนินการให้เรียบร้อย และไม่ให้มีผลกระทบกับชาวบ้านอีกต่อไป

เอเซีย/ ภาพ  พรเพ็ญ / ข่าว