อุปกรณ์ในเรือลากจูงระเบิดขณะจอดรอเรือแม่

WEB-02s - ไฟไหม้เรือ-01

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ร.ต.อ.สุพัฒน์ กิตติพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ย่อยท่าฉลอม  ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้เรือลากจูง ที่จอดอยู่บริเวณท่าเทียบเรือใกล้เคียงวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกันนี้ยังได้ประสานไปยังรถดับเพลิงทั้งของเทศบาลตำบลท่าจีน และเทศบาลนครสมุทรสาคร รวม 3 คัน อีกทั้งยังมีรถหน่วยเคลื่อนที่เร็วของเทศบาลนครสมุทรสาครอีก 2 คัน เข้าระงับเหตุไฟไหม้เรือ ซึ่งเป็นเรือลากจูงของเรือเดินสินค้าขนาดใหญ่ที่จอดเรียงกันอยู่ 3 ลำ โดยลำที่เกิดเหตุเป็นลำที่จอดอยู่ด้านนอกสุด ชื่อเรือ พรปิยะ 97 สภาพเรือถูกไฟลุกไหม้จากแรงระเบิดของอุปกรณ์ภายใน จนห้องควบคุมเรือด้านบนเสียหายวอดทั้งหมด นอกจากนี้ก็ยังมีเรือพรปิยะฌาน 11 ที่จอดอยู่ตรงกลาง ได้รับความเสียหาย กระจกแตกจากแรงระเบิดของเรือลำแรกเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามในการดับเพลิงนานเกือบ 30 นาที จนเหลือแต่กลุ่มควัน แต่ปรากฏว่าขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันฉีดน้ำเพื่อดับกลุ่มควันไฟนั้น อยู่ๆ ด้านท้ายเรือของเรือพรปิยะ 97 ก็ค่อยๆ จมลงในแม่น้ำท่าจีน จนหัวเรือยกสูงขึ้น แล้วในที่สุดก็จมลงไปอยู่ก้นแม่น้ำท่าจีนทั้งลำ โชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกับคนประจำเรือหนีตายขึ้นมาได้ก่อน ส่วนเรือที่อยู่ติดกันก็ไม่ถูกดึงลงไปด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นายศุภโชติ อินทรสม อายุ 49 ปี เป็นผู้ควบคุมเรือพรปิยะ 97 มีบาดแผลคล้ายกับถูกของแข็งเจาะที่หน้าผาก และแผลจากการถูกไฟไหม้ที่หน้าแข้งทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร

จากการสอบถามนายไพรัช เจริญสุข อายุ 32 ปี ผู้ควบคุมเรือ พรปิยะฌาน 11 ที่จอดอยู่ติดกันเล่าว่า เรือทั้ง 3 ลำเป็นเรือของบริษัท พรปิยะ โดยมีเรือ พรปิยะฌาน 17, พรปิยะฌาน 11 และ พรปิยะ 97 จอดเรียงกันตามลำดับจากด้านในไปด้านนอก ซึ่งเป็นเรือลากจูงของเรือเดินสินค้าประเภทถั่วเหลือง โดยในส่วนของตนนั้นได้นำเรือมาจอดที่ท่าเทียบเรือแห่งนี้นานเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว แต่เรือลำที่เกิดเหตุเพิ่งจะมาจอดเมื่อคืนนี้ เพื่อรอเรือแม่หรือเรือเดินสินค้าขึ้นของเสร็จแล้วก็จะลากเรือเปล่ากลับออกไป ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นตนและคนอื่นๆ ไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะอยู่บนฝั่งแล้วก็ได้ยินเสียงคล้ายกับวัตถุบางอย่างเกิดการระเบิดขึ้นจากห้องควบคุมเรือของเรือลำแรก จากนั้นก็มีไฟลุกไหม้ตามมา ทุกคนจึงได้ช่วยกันใช้น้ำและสารเคมีจากถังดับเพลิงฉีดพ่น พร้อมกับแจ้ง 191 เพื่อประสานขอรถน้ำดับเพลิงเข้าช่วย แต่จากแรงที่วัตถุบางอย่างเกิดการระเบิดนั้น ก็ส่งผลทำให้เรือพรปิยะ 97ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และสุดท้ายก็จมลงไปในแม่น้ำท่าจีนต่อหน้าคนนับร้อยที่มาดูเหตุการณ์  ซึ่งเรือลากจูง พรปิยะ 97 ที่จมลงไปอยู่ก้นแม่น้ำท่าจีนนั้น เป็นเรือลากจูงขนาดใหญ่ ของบริษัทพรปิยะ ใช้งานมาเกือบ 10 ปี  มีมูลค่าการสร้างเรือราวๆ 10 ล้านบาท และหากจะกู้ขึ้นมาก็จะต้องใช้เงินหลายแสนบาท เพื่อนำเรือกลับไปซ่อมแซม แต่ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ คงต้องรอให้ทางบริษัทเจ้าของเรือมาดำเนินการต่อไป

s - ไฟไหม้เรือ-02s - ไฟไหม้เรือ-03s - ไฟไหม้เรือ-04s - ไฟไหม้เรือ-05