หายอยู่กลางทะเล15ชั่วโมง

เมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 14 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนาย กมลชัย พวงทองดี อายุ 63 ปี เป็นชาวบ้าน หมู่ที่ 8  ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร ว่าหลานชายของตนออกเรือไปหาหอยแมลงภู่ตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 13 ตุลาคม 2561 และตอนนี้ยังไม่พบตัว พบเพียงไม้พายที่ปักอยู่บริเวณหลักที่ปักไว้เลี้ยงหอยแมลงภู่ ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น.ของวันวันที่14ตุลาคมที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุประมงชายฝั่งได้รับแจ้งว่าพบหลานชายของของนายกมลชัยแล้ว โดยมีเรือท่องเที่ยวได้ช่วยเหลือเอาไว้ และจะนำตัวขึ้นฝั่งที่บ้านเลขที่ 104/2  หมู่ที่8     ต.โคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับนายสามารถ วัดท้วม อายุ34ปี ผู้ประสบเหตุ โดยได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ตนได้ออกเรือ เพื่อไปเก็บหอยแมลงภู่ เมื่อผูกเรือกับไม้พายที่ปักลงดินเสร็จ ยังไม่ทันจะลงเก็บหอย ขาก็เป็นตะคริวจึงต้องนอนพักอยู่ในเรือ กระทั่งน้ำลงแล้วไม้พายลอยขึ้นมา และเรือที่ตนนอนอยู่ก็ลอยห่างออกมาจากหลักหอยแมลงภู่มา ตอนนั้นขาก็ยังเป็นตะคริวจะลงเรือว่ายน้ำไปเอาไม้พายก็ไม่ได้ จำต้องลอยเคว้งอยู่อย่างนั้น พออาการตะคริวหายก็ลอยมาไกลมาก สิ่งที่ติดมาในลำเรือ คือไฟฉาย น้ำดื่ม 2 ขวด รองเท้า อวนตาถี่สำหรับใส่หอยแมลงภู่ และน้ำมัน 1 แกลลอน ช่วงเวลาที่ยังมีน้ำมัน ตนพยามหาทางกลับบ้านแต่เกิดหลงทิศหลงทาง ส่วนโทรศัพท์มือถือก็ไม่ได้ติดตัวมา และเมื่อน้ำมันนั้นหมดลงก็ต้องลอยลำท่ามกลางความมืดในทะเล กระทั่งเวลา 14.00 น. ก็มีเรือท่องเที่ยวผ่านมา จึงตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ โดยเรือลำดังกล่าวได้ให้น้ำและอาหารตนก่อนจะประสานมายังศูนย์วิทยุ ประมงชายฝั่งในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จึงเกิดการประสานช่วยเหลือกันระหว่างชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์ หาเรือออกไปรับ ตนกลับมาได้อย่างปลอดภัยซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดในชีวิตของตน โดยบอกว่าถึงแม้จะคุ้นเคยกับการออกเรือแต่ก็ยังพลาดเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งหลังจากนี้คงต้องทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง พร้อมกับได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ได้ให้การช่วยเหลือจนตัวเองปลอดภัย

สุเมธ/ภาพ/ข่าว