หัวใจนักสู้ชายวัย 65 ปี ขับเรือกอและมุ่งกราบถวายบังคมพระบรมศพ

AD-WEB-NET-แก้ไข-14-6-60-7

เรือกอและ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า คุณลุงเกริ่น เขียนชื่น อายุ 65 ปี ผู้ที่ซึ่งเดินทางด้วยเรือกอและจากจังหวัดนราธิวาส เพื่อมุ่งหน้าไปยังพระบรมมหาราชวัง เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เดินทางผ่านปากอ่าวมหาชัย  จ.สมุทรสาคร จึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่จากศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 สมุทรสาคร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ช่วยพาออกไปเก็บภาพบรรยากาศขณะที่คุณลุงเกริ่น ชายผู้มีหัวใจนักสู้ท่านนี้ กำลังเดินทางกลางทะเล ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดี โดยภาพที่ผู้สื่อข่าวไปเห็นกลางทะเล บริเวณปากอ่าวมหาชัย นั้น พบว่า ลุงเกริ่นได้เดินทางมาด้วยเรือกอและ ซึ่งเป็นเรือแห่งสัญลักษณ์ของชาวเลภาคใต้  และมีนายมุกตา นาวี อายุ 30 ปี หนุ่มชาวจังหวัดนราธิวาส เป็นเพื่อนจิตอาสา ที่ร่วมเดินทางมาด้วย

เรือกอและ1

คุณลุงเกริ่น  บอกว่า ตนเองเป็นคนกรุงเทพแต่ได้เดินทางไปทำงานเป็นช่างภาพอิสระเชิงสร้างสรรค์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มานานหลายสิบปี จึงทำให้ได้รู้จักคนในพื้นที่ และเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ประกอบกับที่ครั้งหนึ่งตนเคยทำหน้าที่เป็นทหารกองเกียรติยศ รับเสด็จพระองค์ท่าน และ เพื่อต้องการเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ที่พระองค์ท่านทรงโปรดกีฬาเรือใบ ดังนั้นตนจึงได้คิดที่จะเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ด้วยการใช้เรือกอและเป็นพาหนะ โดยได้ขอให้ช่าง ในจังหวัดปัตตานีช่วยต่อเรือให้ ซึ่งเป็นเรือกอและลำเล็ก หรือลูกเรือกอและ นั่งได้ 2 คน มีการเสริมอุปกรณ์เพื่อให้การเดินเรือในทะเลปลอดภัยมากยิ่งขึ้นหากต้องเจอคลื่นสูงหรือลมแรง เช่น การต่อเสากระโดงเพื่อใช้ในการชักใบเรือ และการต่อทุ่นข้างเรือทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้เรือมีการทรงตัวที่ดีขึ้น ใช้เงินในการต่อเรือลำนี้โดยรวมทั้งสิ้นประมาณ 7 หมื่นบาท แล้วก็ตั้งชื่อเรือว่า “ ญีวอ ยัง ซามอ     ซึ่งแปลว่า หัวใจเดียวกัน”

เรือกอและ2

จากนั้นในวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 ก็ได้เริ่มต้นการเดินทางจากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส  รวมระยะเวลาเดินทางได้ 63 วันแล้ว  โดยตนเองจะเดินทางด้วยการใช้เครื่องยนต์บ้าง ชักใบเรือขึ้นแล่นไปตามแรงลมบ้าง หรือพายบ้าง ตามแต่สภาพอากาศในแต่ละช่วงวัน ซึ่งด้วยความตั้งใจของตน และเพื่อนๆ ที่มีจิตอาสา ก็คาดว่าจะเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยเมื่อขึ้นฝั่งที่บริเวณชายทะเลบางขุนเทียนแล้วก็จะเดินทางต่อโดยรถยนต์

ลุงเกริ่น บอกทิ้งท้ายว่า การเดินทางในครั้งนี้ตนเองรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก ที่จะได้มีโอกาสสักครั้งหนึ่งของชีวิตในการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างหาที่สุดมิได้ และการเดินทางในครั้งนี้ก็ยังสอนให้ตนได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ในทะเล สอนให้มีทักษะการสู้ชีวิตในทะเล จากคนที่ไม่เคยรู้เรื่องทะเลมาก่อนเลย จึงนับเป็นความภาคภูมิใจและประสบการณ์ที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต

สุเมธ/ภาพ/ข่าว