หน.วิชาการฯเทศบาลนครสมุทรสาคร มือยิงเพื่อนร่วมงานบาดเจ็บสาหัส เดินทางเข้ามอบตัว

AD WEB CCTV 14-6-60

footer_master

จากเหตุการณ์ที่ พ.จ.อ.รุ่งเรือง บุญรุ่งเรือง อายุ 54 ปี หัวหน้าฝ่ายควบคุมการก่อสร้างสำนักการช่างเทศบาลนครสมุทรสาคร ถูกนายจิรภัทร ดำรงรัตนมณี อายุ 56 ปี หัวหน้างานฝ่ายบริการทั่วไปกองวิชาการและแผนงานเทศบาลนครสมุทรสาคร ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงที่บริเวณหน้าห้องน้ำชาย ในเทศบาลนครสมุทรสาคร เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อเวลาเวลา 17.00 น.ของวันที่ 30 สิงหาคม 2561 นายจิรภัทร   ดำรงรัตนมณี ได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความ เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และ พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ที่สำนักงานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และแจ้งว่าตนเองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลสมุทรสาคร ที่ จ.302/2561  ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร  จึงได้ติดต่อขอมอบตัวที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งทางด้าน พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวว่าในเบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุในคดีนี้ ซึ่งหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะรับมอบตัวและแจ้งข้อกล่าวหาหลังจากนั้นจะนำตัวไปฝากขัง โดยผู้บาดเจ็บได้ขอคัดค้านการประกันตัว ส่วนทางพนักงานสอบสวนก็ขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาเช่นกัน ซึ่งจากหลักฐานเบื้องต้นนั้นทางตำรวจคาดว่าน่าจะสามารถใช้เอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน

footer_master

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 31 สิงหาคม 2561 พ.ต.ท.กฤตชัย อาชวสกุล สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังยังศาลจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกันนี้ยังได้มีการตรวจยึดรถยนต์ฮอนด้าซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ญพ 8468 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของผู้ต้องหาและเป็นยานพาหนะที่พบจอดอยู่ในเทศบาลนครสมุทรสาครในวันเกิดเหตุ มาตรวจสอบด้วย ขณะที่อาวุธปืนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำส่งตรวจทางวิทยาศาสตร์ต่อไป ส่วนสภาพของผู้ต้องหานั้น จากการสอบถามทราบว่า ตั้งแต่ถูกนำตัวเข้าคุมขังที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ก็ค่อนข้างอยู่ในอาการเครียด ไม่พูดไม่จา ทั้งนี้ในส่วนของการสอบสวนนั้น ทางสารวัตรสอบสวนไม่สามารถที่เปิดเผยรายละเอียดได้ไปมากกว่านี้แล้ว เนื่องจากจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งทั้งหมดก็จะต้องไปว่าการในชั้นศาลเท่านั้น

footer_master

footer_master

สุเมธ /ภาพ/ข่าว