หนุ่มขับแบ็คโฮปืนดุ จ่อยิงหนุ่มวังกุ้งดับคารถ

เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.ของวันที่ 07 ธันวาคม 2562 พ.ต.ท.สุรินทร์ ขุนพิทักษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงเสียชีวิตภายในซอยชุมชนพัฒนา 1 หมู่ที่ 6 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ทวีป เงินดี รองผกก.หน.พนักงานสอบสวนสภ.โคกขาม , พ.ต.ท. ทินกร รังรื่น รอง ผกก.ปราบปรามฯ,พ.ต.ท.ไพฑูรย์ อินทร์มณี  สว.อก.สภ.โคกขาม (ช่วยราชการงานสืบสวนฯ), ร.ต.อ.หญิงกนกกาญจน์ ทองประสานคุณ รองสารวัตรกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โคกขาม เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางซอย มีรถยนต์กระบะสีแดง ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน ชผ 1508 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในลักษณะติดเครื่องยนต์ ปิดล๊อคประตูทั้ง 4 ด้าน กระจกขวาด้านฝั่งคนขับมีรอยถูกยิงเข้าจนเป็นรูขนาดใหญ่ ส่วนกระจกกับประตูด้านซ้ายมีรอยกระสุนทะลุออกรวม 3 นัด  ขณะที่ภายในรถตรงที่นั่งคนขับพบศพเป็นชาย ทราบชื่อต่อมาคือนายนครินทร์ หงษ์โต อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.6 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณขมับด้านขวาทะลุโหนกแก้มด้านซ้าย และลำคอ รวม 2 รู  เลือดท่วมร่าง  และตรวจสอบภายในรถยังพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. วางอยู่ที่เบาะคนนั่งข้างอีก 1 กระบอก     นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ที่พื้นถนนจำนวน 9 ปลอก กับแว่นตาแตกอีก 1 อัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามอดีตภรรยาของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายเป็นคนข้างค่อนอารมณ์ร้อน โมโหง่ายแต่หายเร็ว โดยเคยมีบ้านพักอาศัยอยู่ในซอยที่เกิดเหตุ แต่เพิ่งจะย้ายออกไปได้ประมาณ 2 เดือนเศษ เพื่อไปทำวังกุ้งในพื้นที่ตำบลนาโคก และคาดว่าวันนี้ผู้ตายน่าจะขับรถมาหาพี่สาวหรือญาติ ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุออกไปไม่มากนัก แต่จะมาธุระอะไรก็ไม่รู้เพราะระยะหลังนี้ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนรถคันที่ถูกยิงนั้นเป็นของลูกเขยผู้ตาย แต่อาวุธปืนไม่รู้ว่าเป็นของผู้ตายหรือขอยืมใครมา เพราะไม่เคยเห็นมานานแล้ว

ทั้งนี้เบื้องต้นก็คาดว่า เมื่อผู้ตายขับรถมาถึงบริเวณดังกล่าว แล้วเกิดเจอรถแบ็คโฮที่กำลังขุดดินเพื่อวางท่อระบายน้ำนั้น จอดรถขวางทางไม่สามารถให้รถคันอื่นผ่านไปได้ จึงทำให้ผู้ตายเกิดอารมณ์โมโหที่ต้องจอดรอนาน พอรถแบ็คโฮหลบทางให้ ผู้ตายก็ขับผ่านไปประมาณ 10 เมตร แล้วก็จอดลงมาต่อว่าจนกลายเป็นทะเลาะวิวาทกับนายเอส ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุลจริงที่เป็นคนขับรถแบ็คโฮ จนถึงขั้นลงมือชกต่อยกันจนแว่นของนายเอสตกแตก จากนั้นนายนครนทร์ ก็ได้เดินกลับไปขึ้นรถเพื่อจะเข้าไปบ้านญาติ แต่ถูกนายเอสตามมาที่รถแล้วชักอาวุธปืนจ่อยิงจนเสียชีวิตคารถ ส่วนนายเอส หลังก่อเหตุได้ขับรถแบ็คโฮไปจอดเก็บไว้ในพื้นที่ก่อสร้าง แล้วก็รีบหลบหนีไป 

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบพยานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดละแวกดังกล่าว และจะได้ติดตามตัวนายเอส ผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฏหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด