สาวใหญ่หอบใบสั่งนับ 10 ฉบับ เข้าแจ้งความ ถูกสวมทะเบียน

เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.ของวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 นางสุวรรณา ไทยคำ อายุ 56 ปี เป็นชาว ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้หอบหลักฐานเป็นใบสั่งจากกล้องตรวจจับความเร็วของตำรวจทางหลวงจำนวน 9 ฉบับ เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อยืนยันว่า รถและทะเบียนที่ปรากฏในภาพตามใบสั่งนั้นไม่ใช่รถยนต์ของตนเอง แม้จะเป็นรถยนต์ฮอนด้ารุ่นเดียวกัน สีม่วงเหมือนกัน และทะเบียนเลขเดียวกันคือ วธ 2365 กรุงเทพมหานคร แต่เป็นรถที่สวมทะเบียนปลอมอย่างแน่นอน ส่วนรถของตนนั้นเป็นรถที่ใช้ทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และมีการจ่ายภาษีอย่างถูกต้องทุกปีเป็นเวลานานถึง 16 ปีแล้ว

นางสุวรรณา ไทยคำ เล่าว่า เมื่อปี 2560 ตนเองได้รับใบสั่งส่งมาที่บ้าน 1 ฉบับ เป็นใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับเนื่องจากขับรถเร็วเกินอัตราที่กำหนด ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะตนไม่เคยนำรถไปในเส้นทางดังกล่าว จนล่าสุดพฤษภาคม 2562 มีใบสั่งตรวจจับความเร็วของตำรวจทางหลวงส่งมาที่บ้านอย่างต่อเนื่องรวมแล้ว 9 ฉบับด้วยกัน เป็นข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กำหนดทั้งสิ้น โดยรถคันดังกล่าวนั้นจะใช้เส้นทางถนนทางพิเศษ กาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) และทางด่วนพิเศษบางปะอินฯ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งล้วนแต่เป็นเส้นทางที่ตนไม่เคยไปทั้งสิ้น ดังนั้นตนเองเห็นว่าน่าจะโดนผู้อื่นทำการสวมทะเบียนปลอมเป็นเลขเดียวกับรถของตนแล้ว หากปล่อยไว้จะไม่เป็นผลดีกับตัวเองและครอบครัว เพราะรถคันดังกล่าวอาจจะไปกระทำความผิดอื่นได้ รวมถึงในอนาคตตนจะไม่สามารถต่อภาษีหรือใบขับขี่ได้ตามที่กฎหมายใหม่กำหนด ทั้งนี้จึงได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน

นางสุวรรณาฯ เล่าอีกว่า รถยนต์ทั้งสองคันคือรถของตนที่ใช้ทะเบียนจริงถูกต้องตามกฎหมายด้วยเลข วธ 2365 กรุงเทพมหานคร กับรถอีกคันที่ปรากฏในภาพถ่ายของใบสั่งด้วยเลขเดียวกันนั้น หากดูเผินๆ จะเห็นว่าทุกอย่างเหมือนกันหมดแม้กระทั่งรุ่นและสีรถยนต์ แต่ถ้าสังเกตให้ชัดเจนจะมีจุดแตกต่างกันหลายอย่าง เช่น ไฟหน้ารถ ช่องระบายอากาศด้านหน้า ไฟตัดหมอก และแผ่นป้ายทะเบียนสั้น – ยาว ต่างกัน ดังนั้นตนจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ขนส่ง ที่มีอำนาจตรวจจับบนเส้นทางดังกล่าว ช่วยจับรถคันที่ทำการสวมทะเบียนปลอมซึ่งเป็นเลขเดียวกับรถของตนเอง เพื่อหยุดการกระทำความผิดทางกฎหมาย อย่างน้อยๆ ก็ในเรื่องของการขับรถเร็วและหลบเลี่ยงการเสียภาษีรถยนต์ประจำปี

สุเมธ /ภาพ/ข่าว