สนง.อุตสาหกรรม สั่งหยุด ให้เวลา30 วันเพื่อปรับปรุง ปล่องแดงนาโคก

เมื่อเวลา 10.00น. ของวันที่ 10 ตุลาคม ได้มีการเข้าตรวจโรงงานหล่อหลอมในพื้นที่ตำบลนาโคก หลังจากที่ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนปัญหาผ่านสื่อโซเชี่ยลว่าได้รับความเดือดร้อนจากการเผาไหม้ แล้วกลิ่นได้ลอยไปยังชุมชนซึ่งอยู่ห่างออก และกังวลถึงอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากโรงงานที่ปล่อยควันเป็นโรงหล่อหลอม วันนี้ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด รองปลัดและเจ้าหน้าที่จาก อบต.นาโคก ตัวแทนจากอำเภอเมือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลนาโคกตัวแทนชาวบ้าน และสื่อมวลชน จึงได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบโรงงานกษิด์เดช ประกอบการหลอมหล่อทองเหลือง ทองแดง โดยพบกับนายประสิทธิ์ คำจันทร์ รักษาการผู้จัดการ ซึ่งได้บอกว่าตนเองเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งนี้มาเมื่อประมาณ 3 ปี ซึ่งตอนนี้เจ้าของเดิมนั่นก็คือ นายกษิด์เดช พูนเพิ่มศิริกุล ได้ให้ทางมิสเตอร์หยาง ซึ่งเป็นชาวจีน มาเช่าทำกิจการต่อ ซึ่งจากการเข้าตรวจในวันนี้ทางโรงงานได้หยุดดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทาง อบต.นาโคก ได้ลงพื้นที่ตรวจเป็นการเร่งด่วนจากการร้องเรียนของชาวบ้าน ซึ่งพบว่าถุงกรองฝุ่นชำรุด และได้สั่งหยุดปรับปรุง และวันนี้จึงเป็นการตรวจซ้ำจากหน่วยงานต่างๆเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด โดยภายในพื้นที่โรงงานยังพบว่ามีกลิ่นเหม็นแสบจมูก ซึ่งน่าจะเป็นกลิ่นที่มาจากวัตถุดิบที่ถูกเก็บกองไว้ในพื้นที่ ซึ่งทางโรงงานบอกว่า เป็นวัตถุดิบที่จะต้องนำมาเผาเพื่อให้ได้ทองเหลืองหรือทองแดงออก ภายในโรงงานยังมีวัตถุดิบต่างๆกองเกลื่อน ทั้งถ่านหิน และกากจากอุตสาหกรรมที่ถูกถมอยู่ในพื้นที่ด้านหลัง รวมทั้งเศษฝุ่นในถุงบิ๊กแบ็กที่ตั้งทิ้งไว้กลางแจ้ง ซึ่งคาดว่าเมื่อฝนตกลงมาก็ชะสิ่งเหล่านี้ลงสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติด้านข้าง ส่วนบ่อที่เก็บน้ำ ก็ยังพบว่ามีรูระบายออกโดยตรงแบบที่ไม่ผ่านการบำบัด ส่วนบ่อล้างวัตถุดิบน้ำจะใช้น้ำจากคลองด้านข้างและก็ปล่อยไหลตามท่อลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติแบบไม่ผ่านการบำบัดเช่นกัน

ส่วนเรื่องของกลิ่นนั้น ทางนายประสิทธิ์ รักษาการผู้จัดการโรงงานบอกว่า เกิดจากถุงกรองฝุ่นชำรุด ซึ่งถุงนี้จะช่วยลดกลิ่นที่ฟุ้งกระจายออกไป โดยถุงจะต้องมีการเปลี่ยนตามรอบที่กำหนดไว้ แต่สาเหตุที่ครั้งนี้มีกลิ่น ทางโรงงานยอมรับว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนตามระยะเวลาที่ต้องเปลี่ยน จึงเกิดการชำรุดขณะทำงาน ทำให้กลิ่นลอยออกไป ซึ่งหลังจากนี้ตนเองในฐานะผู้ดูแลที่นี่ก็จะแก้ไขปรับปรุงระบบต่างๆให้ดีขึ้น เพราะเครื่องจักรเดิมภายในโรงงานค่อนข้างเก่า อาจมีบางอย่างที่ทรุดโทรม ตนเองก็จะแก้ไขใหม่ แต่ก็ต้องบอกว่า แม้ระบบจะปรับเปลี่ยนให้ดีแล้ว ก็ยังมีกลิ่นเกิดขึ้นในช่วงแรกที่เปิดเตาเผาอยู่บ้าง

ส่วนทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรม ได้มีการสรุปผลว่า ให้ทางโรงงานหยุดปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันแล้วแจ้งกลับก่อนที่จะดำเนินกิจการ ต่อจากนั้นจะให้หน่วยงานมาวัดค่ามลพิษทางอากาศด้วย ส่วนระบบน้ำที่ต่อลงแหล่งน้ำธรรมชาติต้องปิดและทำระบบบำบัดให้ดีอย่าให้มีน้ำรั่วไหลออกไป ส่วนเรื่องการเก็บกองนั้นจะต้องเก็บกองภายในอาคารทั้งหมดป้องกันการชะล้างลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ และเรื่องการเก็บกองนั้นจะต้องมีการดำเนินคดีเนื่องจากใบขออนุญาตกักเก็บสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช่แล้วบริเวณโรงงาน หมดอายุมาตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ส่วนเรื่องใบรง.4 นั้นได้มีการขออนุญาตทำมาตั้งแต่ 28 ตุลาคม 2539และจะสิ้นอายุ 1 มกราคม 2566  แต่ติดปัญหาอยู่ที่ว่า ตามใบขออนุญาตนั้นแจ้งไว้ว่าทำในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลนาโคก แต่ตัวโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่2 ซึ่งต้องให้ทางโรงงานหาเอกสารและหาที่มาของเรื่องนี้ว่าทำไมจึงไม่ตรงกัน เพราะนี่ก็จะเป็นความผิดอีกหนึ่งเรื่องที่พบ

และในวันนี้ทางตัวแทนชาวบ้านได้มีการยื่นหนังสือขอความเห็นใจให้กับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร อบต.นาโคก กำนันตำบลนาโคก และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลนาโคก ให้ช่วยจริงจังอกับการแก้ปัญหา เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหามานานมีชาวบ้านได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง

เอเซีย/ ภาพ  พรเพ็ญ / ข่าว