วัยรุ่นยกพวกตะลุมบอน ถูกยิงสวนหวิดดับ

AD-WEB-NET-แก้ไข-6-12-61

s - โดนยิงหวิดดับ-01

เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น.ของวันที่ 23 เมษายน 2562 พ.ต.ต.สุขุม เพาะไธสง สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนฯ เข้าตรวจสอบเหตุทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืน โดยมีผู้ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่แขนและขาได้รับบาดเจ็บ ภายในตลาดยามเย็น ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งภายในที่เกิดเหตุพบว่ามีบางส่วนเปิดเป็นร้านเหล้าและสถานบันเทิงขนาดเล็ก แต่ก็ได้ปิดให้บริการหมดแล้วตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนตรงที่เกิดเหตุเป็นบริเวณหน้า “ร้านมหาชิลลล…”สภาพโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด มีขวดแก้วแตกกระจายเกลื่อนพื้น และมีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้นจำนวน 6 ปลอก อีกทั้งยังมีกองเลือดอีกด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐานก็ได้เข้ามาเก็บรวบรวมลายนิ้วมือและวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 4 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรสาครไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบต่อมาคือ 1.นายชโลธร แพรกอุดม อายุ 35 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่4 ต.ท่าจีน อ.เมืองสมุทรสาคร ถูกขวดแก้วตีที่ศีรษะจนสลบมีบาดแผลเย็บที่ศรีษะด้านขวา 2.นางสาวสร นามสมมุติ อายุ 30 ปี ถูกขวดแก้วปาดแขนด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์เย็บ, 3.นายเอ นามสมมติ อายุ 18 ปี ถูกกระสุนที่ต้นแขนซ้าย, และ 4.นายบี นามสมมติ ถูกกระสุนปืนที่ต้นขาซ้าย โดยนายเอและนายบีเป็นคู่กรณีกับกลุ่มนายชโลธรฯซึ่งผู้บาดเจ็บ 2 คนได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ สมุทรสาคร และอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนคนยิงหลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวมาสอบปากคำ ทราบชื่อคือ นายรณชัย ตุ้มนิลการ หรือโย อายุ 30 ปี เป็นชาว จ.ปทุมธานี พร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม.อีก 1 กระบอก

s - โดนยิงหวิดดับ-02

โดยทางด้านนายพินิจ พวงเงิน อายุ 27 ปี หนึ่งในคนที่อยู่ในร้านบอกว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุนั้นทางร้านต่างๆ รวมถึงสถานบันเทิง ได้ปิดให้บริการหมดแล้วในเวลาเที่ยงคืนตามที่กฎหมายกำหนด แต่กลุ่มของผู้ใหญ่บ้านที่มาด้วยกัน 5 คน ยังคงนั่งดื่มและพูดคุยกันต่อที่โต๊ะหน้าร้าน เพราะเครื่องดื่มยังไม่หมด กระทั่งได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น แล้วก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด พอออกมาดูก็เห็นผู้ใหญ่บ้าน นอนสลบอยู่กับพื้นใต้โต๊ะ เลือดไหลอาบศีรษะ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องด้วยต่าง วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาตะลุมบอนกับกลุ่มผู้ใหญ่บ้านนั้นมาจากไหน เพราะก่อนหน้านี้เห็นมีเพียงกลุ่มผู้ใหญ่บ้านนั่งอยู่เพียงแค่โต๊ะเดียว ส่วนทางด้านของนายรณชัย คนยิงเล่าว่า ตนเองเดินเข้ามาก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นรุมตีนายชโลธร ซึ่งตนนับถือเป็นพี่ชาย ก็เลยไปคว้าปืนจากตัวนายชโลธร แล้วก็เอาออกมายิงขู่พวกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนที่เข้ามารุมทำร้าย ทำให้ทั้งหมดหนีไปคนละทิศละทาง

s - โดนยิงหวิดดับ-03

ขณะที่นายชโลธรฯ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ท่าจีน เปิดเผยว่า ตนเองกับเพื่อนๆ รวม 5 คน ยังนั่งดื่มอยู่ตรงที่เกิดเหตุ หลังจากที่ร้านปิดบริการแล้วนั้น ซึ่งตอนนั้นก็มีวัยรุ่นคนหนึ่งนั่งคุยอยู่โต๊ะข้างๆกัน จากนั้นตนลุกไปเข้าห้องน้ำ วัยรุ่นชายคนนั้นก็หันมาถามเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะของตนว่า “ถ้าจะพาไปด้วยคิดเท่าไหร่” ซึ่งพอตนเดินกลับมาเพื่อนในโต๊ะก็เล่าให้ฟัง ตนจึงลุกขึ้นแล้วบอกว่า “คุณพูดแบบนี้ไม่ถูก ให้กลับไป จะได้มีเรื่องกัน” ชายวัยรุ่นก็ลุกเดินออกไป ประมาณ 10 นาที ก็เดินกลับเข้ามาอีกแล้วบอกว่ากลับมาเอาของ ตนเองจึงไม่สนใจอะไรก็หันกลับมานั่งกินต่อ แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ถูกของแข็งตีเข้าที่ศีรษะแล้วก็สลบไป มารู้สึกตัวก็ตอนที่อยู่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งเมื่อถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีคนเล่าว่า หลังจากที่ตนเองถูกตีก็มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามารุมทำร้ายพวกตน ทางนายโยซึ่งเป็นน้องที่มาด้วยกันจึงคว้าเอาอาวุธปืนของตนนั้นออกมายิงเพื่อป้องกันเพื่อนๆ

s - โดนยิงหวิดดับ-04

ทั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำ และนำตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร โดยได้มีการตั้งข้อกล่าวหาแก่นายรณชัย มือยิงว่า พยายามฆ่า พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยมีมูลเหตุเนื่องจากทะเลาะวิวาทเลยใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว

ซึ่งความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณตลาดนัดยามเย็น แล้วพบว่าก่อนเกิดเหตุนั้นทางด้านนายชโลธร แพรกอุดม ผู้ใหญ่บ้านหมู่4 ต.ท่าจีน อ.เมืองสมุทรสาคร ได้นั่งกินเหล้ากับกลุ่มเพื่อนชายหญิงรวม 5 คน จากนั้นได้มีชายวัยรุ่นสวมเสื้อสีขาวถือขวดเข้ามาตีที่ศีรษะนายชโลธรฯ จนล้มคว่ำคาโต๊ะและได้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนเกือบ 10 คนต่างกรูเข้ามาทำร้ายคนในโต๊ะ จนกระทั่งนายรณชัย ตุ้มนิลการ คว้าเอาปืนมาลั่นกระสุนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นจนแตกกระเจิงและได้รับบาดเจ็บ แต่ในที่สุดตัวเองก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในที่สุด

ด้านนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าในกรณีที่ผู้ใหญ่บ้านได้มีการทะเลาะวิวาทและมีเหตุทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันนั้น ทางอำเภอจะดำเนินการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าได้ข้อเท็จจริงอย่างไร จะสู่กระบวนการในการสอบวินัย เพื่อดำเนินคดีกับทางตัวผู้ใหญ่บ้าน ถ้ากรณีพบว่าข้อเท็จจริง เกิดจากความบกพร่องหรือเกิดจากความประพฤติเสื่อมเสียของทางผู้ใหญ่บ้านก็จะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนในเรื่องการพกปืนนั้นจากการตรวจสอบไม่มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ และในเรื่องของสถานบริการก็จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเหมือนกันว่าร้านเปิดบริการหรือมีการปล่อยปละละเลยหรือไม่  ถ้ามีความผิดก็ว่ากันไปในความผิดนั้นๆ

สุเมธ/ภาพ/ข่าว