วอนช่วยเหลือยายหลาน บ้านพัง
เรื่องของยายหลานที่กำลังจะนำเสนอนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้รับทราบจากการส่งเรื่องราวเข้ามายังเพจของมหาชัยเคเบิลทีวี ซึ่งผู้ส่งเข้ามาคือ ด.ญ.เพียงพิน ฮู้ตาทอง และ ด.ญ.อริสา เปี่ยมทวี เด็กนักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร ที่บังเอิญได้เจอยายในช่วงเช้าเมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่แล้ว ตอนที่ยายมาส่งหลานที่โรงเรียนวัดเกตุม ยายบอกว่าให้ช่วยหาเบอร์โทรศัพท์บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ให้ที จะโทรไปขอความช่วยเหลือ แต่ตนทั้งสองคนไม่มี และอยากรู้ว่ายายลำบากอย่างไร จึงเดินทางไปที่บ้านยาย และได้เห็นสภาพบ้านที่ใกล้จะพัง จึงถ่ายรูปและช่วยโพสท์และส่งมาที่บริษัทมหาชัยเคเบิลทีวี
และเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของยาย ซึ่งอยู่ในซอยข้างโรงงานที่เยื้องกับ อบต.บางโทรัด ก็เห็นสภาพบ้านที่เหมือนกับเศษกองไม้ และพบกับยายลัดดา สาธิตมาโนช อายุ 76 ปี และเด็กชายฐิติกร โสภาเวช อายุย่างเข้า 7 ปี พร้อมกับสุนัขอีก 3 ตัว อยู่ในบ้าน ซึ่งบ้านที่อยู่กันตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลือคำว่าบ้าน เหมือนกับเศษกองไม้ที่ทับถมกันอยู่ ทางเข้าบ้านก็ต้องมุดเข้า เพราะหลังคาพังยุบลงมา รอบบ้านมีน้ำขัง พื้นบ้านครึ่งหลังก็แตกและทรุด มีเพียงพื้นที่ข้างหน้าแคบๆ ที่ใช้เป็นที่นอน และมุมหุงหากับข้าว ส่วนห้องน้ำก็ไม่มีประตู มีเพียงโถส้วมตั้งอยู่เท่านั้น รอบบ้านก็มีช่องโหว่ ต้องหาผ้ายางมาติดกั้นฝนที่สาดเข้ามาแทบทุกทิศ
ยายลัดดาบอกว่า ตนเองเป็นคนนครนายก ย้ายมาอยู่ที่นี่ช่วงปี 2555 เพราะหลานสาวซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายฐิติกร ขอให้มาเลี้ยงให้ เพราะหลานสาวแยกทางกับสามี หลานสาวต้องทำงาน ซึ่งก็ทำงานแถวบางโทรัด และเช่าห้องอยู่ หากเอาลูกไป ก็จะไปทำงานไม่ได้ เพราะลูกยังเล็ก ตนเป็นยายสงสารหลานเลยมาเลี้ยงให้ และมาซื้อบ้านหลังนี้ต่อจากคนอื่น ต่อมาบ้านก็พังไปตามสภาพ จะให้ซ่อมก็ไม่เงิน เพราะเงินตอนนี้ก็ได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ และเงินที่หลานสาวส่งมาให้เดือนละ 1500 ซึ่งต้องมาจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เดือนละ 500-800 บาท และค่ากินของหลานชาย ซึ่งหลานชายตอนนี้ก็เรียนโรงเรียนวัดเกตุม แม่ของหลานชายจะมาหาอยู่เป็นประจำ เอาของกิน เอาเงินมาให้ แต่ตนเองก็ไปอยู่ด้วยไม่ได้ เพราะเป็นห่วงสุนัขทั้งสามตัวที่เลี้ยงมานาน ซึ่งลูกของตนเองที่อยู่ต่างจังหวัดก็อยากให้กลับบ้าน แต่ตนทิ้งหลานชายไปไม่ได้ จึงต้องทนอยู่ที่นี่ ตอนนี้จึงอยากให้บ้านได้รับการซ่อมแซม หรือไม่ก็อยากหาที่อยู่ใหม่ที่ไม่ลำบากเหมือนกับตรงนี้ อยากให้หลานได้หลับนอนอย่างสบาย เพราะบ้านนี้ใกล้จะพังเต็มที กั้นฝนได้ไม่ดี และยุงยังชุมมากอีกด้วย
เอเซีย/ภาพ พรเพ็ญ/ข่าว