ร้องคัดค้าน

AD WEB NET แก้ไข 14-6-60

 

เลี้ยงกุ้ง1

ที่ ศาลาเอนกประสงค์วัดดอนราว ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกว่า300คน รวมตัวกันเพื่อแสดงถึงความเดือนร้อนจากคำสั่งจังหวัดสมุทรสาคร ที่1097/2560 ตามที่นายกรัฐมนตรีได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา9 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558ที่ใช้ความเค็มในพื้นที่น้ำจืดเนื่องจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นเหตุให้เกิดมลภาวะมลพิษทั้งทางน้ำ และมลพิษในดิน เกิดภาวะขาดความสมดุลตามธรรมชาติ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและก่อให้เกิดผลเสียหายต่อทรัพย์สินของรัฐและประชาชน จึงมีคำสั่งให้ระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืดภายในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และดำเนินการให้จับสัตว์น้ำให้แล้วเสร็จภายใน120วันนับตั้งแต่คำสั่งนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 26 เมษายน 2560

เลี้ยงกุ้ง2

ที่ผ่านมากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ได้จัดตั้ง”กลุ่มพัฒนาผู้เลี้ยงกุ้ง”หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า”เกษตรพอเพียง2549″ เป็นเพียงกลุ่มเดียวในจังหวัดสมุทรสาคร จัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2548 มีสมาชิกผู้เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในเริ่มแรกมีจำนวน135 ครัวเรือนและปัจจุบันในพื้นที่ทั้งหมด 12 ตำบล ในอำเภอบ้านแพ้ว มีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งรวมทั้งสิ้นประมาณ  400-500 ครัวเรือน มีการระดมทุนกันเองจากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ให้ความรู้ในการเลี้ยงกุ้ง มีร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเลี้ยงกุ้ง  คัดเลือกให้นายจำนงค์ สุขรัตน์ อายุ72ปี อยู่บ้านเลขที่11/1 หมู่ 7ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานกลุ่มพัฒนาผู้เลี้ยงกุ้ง นายสนิท แดงพยนต์ อายุ51ปี อยู่บ้านเลขที่20/2 หมู่8ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เป็นเลขากลุ่มฯกล่าวว่า ในวันนี้ก็มีเกษตรกรที่ได้รับทราบจึงได้มาลงชื่อคัดค้านคำสั่งฯ เสียงข้างมากมีความไม่เห็นด้วย วันนี้จึงได้นัดหมายกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งออกมาแสดงตัว เพื่อทำการคัดเลือกตัวแทนตำบลเพื่อ3ประเด็นหลักคือ 1.แนะนำกลุ่มฯที่จะดำเนินการคัดค้าน และอุทธรณ์คำสั่งผู้ว่าฯ 2.แจ้งข้อต่อสู้และลำดับการดำเนินการ 3.แจ้งกำหนดแบบการเลี้ยงกุ้งแบบไม่มีผลกระทบต่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม หลังจากคัดเลือกตัวแทนตำบลแล้วนั้น ทางตัวแทนจะได้ลงไปให้หารือกับสมาชิกในตำบลเพื่อลงรายชื่อคัดค้านคำสั่งฯ เพิ่มเติม ซึ่งจะมีการรวมตัวกันเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง โดยจะมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในวันที่ 2 สิงหาคม 2560 เวลา14.00 น. ที่วัดยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เสียงสะท้อนจากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่ใกล้ชายทะเลแม้กระทั้งพื้นที่อำเภอบ้านแพ้วก็ยังเป็นพื้นที่น้ำกร่อย จึงเหมาะสำหรับทำการเกษตรปลูกพืชผักและเลี้ยงกุ้งทะเล เกษตรกรส่วนใหญ่ของพื้นที่อำเภอบ้านแพ้ว ในขณะนี้เลี้ยงกุ้งเกิน 40%ของพื้นที่ เกษตรกรหลายครัวเรือนเลี้ยงกุ้งขาวซึ่งเป็นกุ้งทะเลจำเป็นต้องใช้น้ำกร่อย และในน้ำกร่อยนั้นขอยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรด้านอื่น

เลี้ยงกุ้ง3

อีกทั้งจังหวัดสมุทรสาครยังเป็นตลาดกลางของกุ้งทะเลแช่แข็งที่ส่งออกไปขายยังต่างประเทศแห่งเดียวของประเทศไทย ซึ่งเป็นการส่งออกมากเป็นอันดับสองรองจากข้าว เมื่อราคากุ้งตกต่ำเกษตรกรเองก็ไม่เคยทำความเดือดร้อนให้กับรัฐบาล ไม่เคยเรียกร้องให้พยุงราคา เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในพื้นที่อำเภอบ้านแพ้วในปัจจุบันก็เคยทำแปลงเกษตรเมื่อประสบปัญหาราคาไม่เอื้ออำนวย จึงหันมาเลี้ยงกุ้ง แล้ววันนี้หน่วยงานรัฐบาลให้เลิกเลี้ยงกุ้งแล้วจะให้เกษตรกรเหล่านี้ไปทำมาหากินอะไร ที่ดินบางแปลงยังจำนองอยู่ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ รัฐบาลบอกว่าเลี้ยงได้แต่ห้ามใส่น้ำเค็ม ดูแล้วเหมือนว่า ให้ทำนาแต่ห้ามใส่ปุ๋ย พื้นที่ข้างเคียงของเกษตรกรรายไหนถ้ามีการเรียกร้องว่าเดือดร้อน พวกเราเกษตรกรทุกรายยินดีเลิกเลี้ยงกุ้งในแปลงนั้นทันที นอกจากจะไม่ส่งผลกระทบข้างเคียงแล้วเกษตรกรผู้ปลูกพืชแต่ละชนิดยังต้องการน้ำในบ่อกุ้งซึ่งมีความเค็มต่ำกว่าสองบีทียูด้วย../

สุเมธ/ภาพ/ข่าว