รื้อแล้วเรือประมง 4 ลำ

สำหรับเรื่องการรับซื้อเรือคืนตามนโยบายของรัฐบาล ที่เป็นการเยียวยาชาวประมงที่ไม่สามารถทำประมงต่อได้เนื่องจากโดนระงับการใช้เรือ เพราะไม่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เริ่มทยอยจอดเรือกันมาตั้งแต่ปี2558 ซึ่งตอนนี้รัฐบาลก็ได้มีการรับซื้อเรือคืน เพื่อชดเชยเยียวยาชาวประมงที่ไม่สามารถทำการประมงต่อไปได้ ซึ่งในสมุทรสาครมีอยู่ราว 140 ลำ ที่มีขนาดตั้งแต่ 24-73 ตันกรอส ซึ่งจากการสอบถามไปยังนายมาโนช สรังษี เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่า สาขาสมุทรสาคร บอกว่า หลักเกณฑ์ของการรับซื้อเรือคืนนั้น จะต้องมีการทำลายทิ้งเพื่อให้สิ้นสภาพ เพราะหากซื้อคืนแล้วไปให้เรือยังคงอยู่ก็เกรงว่าจะนำกลับไปใช้ในการประมงที่ผิดกฎหมายอีก หรือหากจะเอาไปทำเป็นปะการังเทียม ตอนนี้วัสดุ อุปกรณ์ หรือเรือที่จะใช้ทิ้งก็มีอยู่เกินความจำเป็นแล้ว จึงมองว่าการทำลายทิ้งน่าจะดีที่สุด เพราะหากจะให้รัฐบาลรับไว้เป็นลำๆรัฐบาลก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อกับเรือกลุ่มนี้

สำหรับการจ่ายเงินในการซื้อเรือคืนก็จะใช้หลักเกณฑ์ที่มีการกำหนดไว้คำนวณเป็นมูลค่าของเรือ ซึ่งแต่ละลำจะได้ไม่เท่ากันเพราะต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการประเมินเรือด้วย และการจ่ายเงินชดเชยนั้นจะแบ่งจ่าย2รอบ รอบแรก 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเงินในส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายในการทำลายเรือด้วย ซึ่งหลังจากการทำลายแล้วต้องมีการลงตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ว่ามีการทำลายจริงเพื่อที่จะได้นำหลักฐานไปยื่นเพื่อขอรับเงินในส่วนที่เหลือ ส่วนไม้จากการทำลายทางเจ้าของเรือสามารถนำไปทำอะไรก็ได้ แต่ส่วนมากจะใช้อะไรไม่ได้เยอะ เพราะไม้ผุสลายมากแล้ว

ส่วนขั้นตอนในการทำลายเรือนั้น จะเป็นการทำลายหน้าท่าส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งต้องนำไปทำลายที่คานเรือ แต่ต้องมีการสำรวจหน้าท่าด้วยว่า การทำลายเรือนั้นจะต้องไม่สร้างมลพิษกับสิ่งแวดล้อม

เอเซีย/ ภาพ  พรเพ็ญ / ข่าว