รอง ผบช.ภ.7 สั่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจเศษดินบนรถเพิ่ม

AD WEB CCTV 14-6-60

รอง ผบช.ภ.7-01

เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 26 มีนาคม 2561 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 และ พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร  ได้เดินทางมาที่ สภ.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าในคดีที่นายเสน่ห์ ปิ่นทำนัก อายุ 63 ปี คนขับรถแท็กซี่ ถูกคนร้ายใช้ ฆ่าปาดคอเสียชีวิต โดยมีทรัพย์สินที่สูญหายไปคือ สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ เงินสดจำนวนมากแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเท่าไหร่ และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง

รอง ผบช.ภ.7-02

ทั้งนี้เมื่อรองผู้บัญชาการภาค7 และคณะมาถึง ก่อนที่จะเข้าห้องประชุมเพื่อรับฟังข้อมูลแนวทางการสืบสวนลับนั้น ก็ได้เดินทางไปดูสภาพรถแท็กซี่คันเกิดเหตุ ดูคราบเลือดและสิ่งของต่างๆที่ตกอยู่ภายในรถ   โดยมี   พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผกก.สภ.บางโทรัด พร้อมด้วย พ.ต.ท.นนท์ ภักดีพันธุ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางโทรัด และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งของจังหวัดสมุทรสาครและของตำรวจภูธรภาค 7 ตลอดจนเจ้าหน้าที่วิยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์ต่างๆ เพื่อนำไปสู่การแกะรอยตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีสะเทือนขวัญนี้

รอง ผบช.ภ.7-03

ด้านพล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการภาค 7 กล่าวว่า คดีนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้ทางภาคลงมาประสานงานกับทางพล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และผกก.สภ.บางโทรัด เพื่อจะช่วยกันทำงาน เพื่อจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี โดยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 1 คน ส่วนรายละเอียดนั้นจะต้องไปรับฟังข้อมูลจากพิสูจน์หลักฐานและตำรวจสืบสวนเพื่อหาข้อมูลในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมได้สั่งการให้ทางพิสูจน์หลักฐานเศษดินที่พบอยู่ในรถไปตรวจเพิ่มเติม เพื่อดูว่ามวลดินมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เพราะถ้าหากได้ตัวผู้ต้องสงสัยมาแล้วก็จะสามารถนำรองเท้าตรวจหามวลสารได้ หากตรงกับส่วนประกอบที่ตรวจได้จากเศษดินในรถ ก็เชื่อได้ว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันกับที่ก่อเหตุ นอกจากนี้ก็จะตรวจดีเอ็นเอจากโลหิตในรถว่าเป็นโลหิตของใครบ้าง ส่วนมูลเหตุของการฆาตกรรมนั้น เรื่องของความโกรธแค้นยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ แต่เบื้องต้นก็เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ นอกจากนี้จากการตรวจสอบในรถพบว่าภายในรถมีคราบโลหิตกระจัดกระจายและกระเด็นไปหลายจุดทั่วรถ ซึ่งอาจมีการต่อสู้กันระหว่างคนขับรถแท็กซี่กับคนร้าย โดยของกลางที่พบคือมีดคัทเตอร์ 1 เล่มซึ่งทางตำรวจจะตรวจสอบก่อนว่าคราบเลือดที่อยู่กับมีดคัทเตอร์นั้นเป็นเลือดของผู้ใด และต้องสอบผู้ใกล้ชิดกับคนขับรถแท็กซี่ว่ามีดคัทเตอร์เป็นของคนขับหรือคนร้าย

สุเมธ /ภาพ/ข่าว