รองผบ.ตร.คุมตัวคนร้ายทำแผนยิงหนุ่มวัยรุ่นดับ 2 ศพ

เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาที่ สภ.กระทุ่มแบน เพื่อติดตามความคืบหน้าในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น จนทำให้มีผู้เสียชีวิตโดยมี พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมพ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รรท.ผกก.สภ.กระทุ่มแบน ร่วมรายงานผลการติดตามตัวคนร้ายและการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุรายนี้ คือ นายสิทธินันท์ นาคน้อย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/18 หมู่ที่ 13 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.45 น.ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เหล็กกล้า สารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกอาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน บริเวณริมถนนข้างบ้านเลขที่ 47/22 ซอยนวลทอง29 ม.5 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบก็พบว่า ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คือ นายศุภพรพงษ์ รุ่งเรือง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่148/10 ม.9 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร สภาพศพถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ใบหน้ากระสุนทะลุศีรษะ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกระทุ่มแบนไปก่อนหน้านี้ คือ นายกิตติพงษ์ ชมพูเพชร์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/22 ม.5 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กระสุนเข้าจุดสำคัญทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา กับ นางสาวน.ส.ชลนิชา กันบัว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.8 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่แพทย์ได้ให้การรักษาจนอาการปลอดภัยดีแล้ว  ขณะที่คนร้ายคือ นายสิทธินันท์ นาคน้อย ซึ่งได้มาพักอาศัยอยู่กับพ่อที่ห้องเช่าฝั่งตรงข้ามกับบริเวณที่เกิดเหตุ โดยหลังเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ หมายเลขทะเบียน บพจ 396 กรุงเทพ หลบหนีไป

ทั้งนี้ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ขอให้ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ออกหมายจับ เพื่อนำตัว นายสิทธินันท์   นาคน้อย มาดำเนินคดีในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน   ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต  โดยใช้วิธีการกดดันจับกุมตัว จนในที่สุดนายสิทธินันท์ฯ   ผู้ต้องหา ทนหนีต่อไปไม่ไหว    จึงได้ติดต่อมาทางนายกฤตวัฒน์ นาคน้อย อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของผู้ต้องหา และ นายสมนึก นาคน้อย บิดาของผู้ต้องหา  เพื่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก็ได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และยอมรับแต่โดยดีว่า เป็นผู้ลงมือทำจริง แต่ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ โดยต้องการชดใช้ความผิดในสิ่งที่กระทำลงไป พร้อมกันนี้ยังได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้นหาอาวุธปืนที่เอาไปซ่อนไว้ในท่อน้ำซีเมนต์ ริมถนนทางหลวงชนบทสุพรรณบุรี 4030 หมู่ที่ 3 ต.หนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี

โดยทางด้านนายสิทธินันท์ฯ ให้การรับสารภาพว่าตนพักอาศัยอยู่ที่ชั้นที่ 2 ห้องเช่าของ นายสมนึก นาคน้อย ซึ่งเป็นบิดาของตน และในวันเกิดเหตุตนได้เกิดความเครียด จึงลงมานั่งสูบบุหรี่อยู่ที่บริเวณชั้นล่างของห้องเช่า ฝั่งตรงข้ามร้านขายของชำที่เกิดเหตุ และได้ยินกลุ่มผู้ตายพูดคุยกันเสียงดัง ซึ่งมีข้อความที่ทำให้ตนฟังแล้วเกิดความาไม่พอใจและรู้สึกโมโห จึงได้ลอดรั้วออกมา และเดินเข้ามาหา   กลุ่มผู้ตาย และใช้อาวุธปืนพกสั้น แบบออโตเมติก ขนาด .38 ซุปเปอร์ ยิงใส่กลุ่มของผู้ตายที่นั่งอยู่บริเวณข้างร้านขายของชำ จากนั้นจึงได้ขี่รถหลบหนีไป

ซึ่งพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุนั้น ก็ปรากฏว่า มีบรรดาญาติและเพื่อนๆ ของผู้เสียชีวิตกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนผู้ที่พักอาศัยอยู่แถวนั้น มารอดูการทำแผนฯ กันอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางความโกรธแค้นของเพื่อนๆ ผู้เสียชีวิตที่ยังเป็นวัยรุ่น ซึ่งแม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเจรจาขอความร่วมมือก่อน เพื่อให้การทำแผนในครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี อีกทั้งยังระดมกำลังตำรวจ, ทหาร และตำรวจอาสา รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 50 นาย มาช่วยกันสกัดกั้นผู้ที่จะเข้ามารุมทำร้ายผู้ต้องหา แต่สุดท้ายเมื่อนำตัวผู้ต้องหาลงมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพียงแค่ไม่ถึง 5 นาทีนั้น ก็สู้แรงโกรธแค้นของญาติ กับเพื่อน ผู้เสียชีวิตที่พยายามจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ไม่ได้ จึงต้องรีบนำผู้ต้องหากลับ สภ.กระทุ่มแบน ทันที

สุเมธ/ภาพ/ข่าว