รถเก๋งแก๊สรั่ว

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 ศูนย์วิทยุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครได้รับแจ้งเหตุ มีผู้เป็นลมหมดสติภายในรถยนต์เก๋ง 5 คน ซึ่งจอดอยู่ริมถนนพระราม 2 กม.ที่ 49+400 หมู่ที่ 2 ต.นาโคก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ใกล้เคียงกับร้านขายเกลือริมทาง ทั้งนี้จึงได้รีบประสานรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลสมุทรสาคร,โรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร , โรงพยาบาลวัดเกตุมดีฯ (รพ.สมุทรสาคร 2 ) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน  ขณะเดียวกันก็ได้ประสานไปยัง สภ.บางโทรัด ให้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งเมื่อ พ.ต.ต.สุชาติ. สมบูรณ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บางโทรัดไปถึง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ได้นำผู้ที่เป็นลมหมดสติทั้งหมด ส่งโรงพยาบาลสมุทรสาครไปแล้ว เหลือเพียงรถยนต์เก๋งสีแดง ยี่ห้อ BMW รุ่น 318i หมายเลขทะเบียน ศฐ 4998 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในลานริมถนนใกล้กับโรงนาเกลือ ซึ่งรถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์เก๋งที่ถูกดัดแปลงติดตั้งระบบแก๊ส LPG

จากการสอบถามนายสุรศักดิ์ อินรวม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 4 ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พ่อค้าขายเกลือพลเมืองดีที่เข้าช่วยเหลือเป็นคนแรกเล่าว่า ตนเองเห็นรถยนต์คันดังกล่าวขับมาจอดริมถนน ก่อนถึงร้านของตนประมาณ 30 เมตร จากนั้นคนขับก็เปิดประตูรถออกมาแล้วก็เดินโซซัดโซเซลงไปตรงร่องน้ำข้างทาง ซึ่งตนเห็นว่ามีอาการแปลกๆ ผิดปกติ จึงได้รีบวิ่งไปดู แต่คนขับยังอยู่ในอาการมึนงง เวียนศีรษะ ไม่พูดไม่จาอะไร แล้วก็ทำท่าเหมือนจะเป็นลม ตนจึงได้ประคองเอาไว้ พอมองเข้าไปดูในรถก็เห็นคนนอนอยู่อีก 4 คน จึงได้เรียกให้นางพยงค์ พ่วงทอง อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของนาเกลือที่อยู่ไม่ไกลนัก ให้มาช่วยด้วยอีกแรงหนึ่ง จากนั้นตนก็เปิดประตูเข้าไปเรียกคนทั้ง 4 คน แต่ไม่รู้สึกตัวใดๆ และตนก็ได้กลิ่นคล้ายกลิ่นแก๊สลอยอบอวลอยู่ภายในรถ จึงได้รับไปเปิดประตู 2 ด้าน ส่วนนางพยงค์ฯ เจ้าของนาเกลือได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประสานรถพยาบาลมาให้การช่วยเหลือผู้เป็นลมหมดสติ พร้อมกันนี้ก็ได้ขยับรถยนต์เข้าไปจอดไว้ที่ลานด้านในหน้าโรงนาเกลือ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยต่อมาทราบชื่อผู้ที่มาในรถยนต์คันนี้แล้ว 4 คน คือ นายวรา ธีระพงษ์ อายุ 24 ปี,นางสาวจีรประภา วงษ์พาศกลาง อายุ 23 ปี,นายจักรินทร์ วงษ์พาศกลาง อายุ 18 ปี และนางสาวสุพัตรา ยังซื่อ อายุ 25 ปี ส่วนอีก 1 คน ยังไม่ทราบชื่อ

ทางด้านของชูศักดิ์ แก้วเจริญ เจ้าหน้าที่เวรเปล โรงพยาบาลวิภาราม (สมุทรสาคร) หนึ่งในเจ้าหน้าที่ ที่ได้เข้าให้การช่วยเหลือผู้ที่เป็นลมหมดสติในเหตุการณ์นี้ เล่าว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่าภายในรถมีผู้ที่ไม่รู้สึกตัวอยู่ 4 คน คือ หญิงสาวที่นั่งข้างคนขับ กับ ผู้ที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังคนขับอีก 3 คน เป็นชาย 2 คน และผู้หญิงอีก 1 คน โดยหนึ่งในนั้นเริ่มมีอาการชักเกร็ง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวขึ้นรถกู้ชีพแล้วก็ให้การปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร ซึ่งทั้งหมดโชคดีที่อาการอยู่ขั้นปลอดภัย แต่ต้องได้รับการตรวจรักษาอย่างละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป ส่วนสาเหตุนั้นจากการที่ได้พูดคุยกับคนขับรถที่พอจะรู้สึกตัวเพียงคนเดียวก็บอกว่า ได้ขับรถมาจากจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อที่จะไปเที่ยวทะเลชะอำในช่วงวันหยุด โดยคนขับรถได้ผลัดเปลี่ยนกับเพื่อนอีกคนหนึ่งช่วยกันขับรถมาเรื่อยๆ ส่วนคนอื่นๆ นอนหลับเพราะอ่อนเพลียจากการเดินทางระยะไกล ทั้งนี้ขณะที่ขับรถมานั้น คนขับรถก็ได้กลิ่นคล้ายกับแก๊สรั่ว พอสักพักหนึ่งก็รู้สึกมึนงง เวียนศีรษะแล้วก็เหมือนกับไม่รู้สึกตัวอะไรอีกเลย และไม่รู้ด้วยว่าจอดรถเดินลงไปข้างทางตอนไหน มารู้ตัวมีสติก็ตอนที่เจ้าหน้าที่ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ซึ่งคาดว่าทั้งหมดนั้นน่าจะเป็นลมหมดสติจากแก๊สรั่วไหลนั่นเอง โดยผู้ที่นั่งด้านข้างคนขับ กับ คนที่นั่งข้างหลังน่าจะเป็นลมไปในช่วงที่กำลังนอนหลับ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จะให้คนขับรถและผู้ที่นั่งมาในรถทั้งหมดนั้น มาให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของการเป็นลมหมดสติภายในรถยนต์คันดังกล่าว อีกทั้งยังจะให้อู่ซ่อมรถยนต์ มานำรถไปตรวจสอบด้วยว่า เกิดการรั่วไหลของแก๊สจากส่วนไหน จนทำให้ไหลเข้ามาในรถ แล้วคนในรถเป็นลมหมดสติดังกล่าว

ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็นับเป็นอุทาหรณ์เตือนภัย สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ติดตั้งระบบแก๊ส ซึ่งต้องทำการตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกรมควันเสียชีวิต ไม่โชคดีอย่างคนทั้ง 5 คนนี้

  เอเซีย/ ภาพ  พรเพ็ญ / ข่าว