มารศาสนา
ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากท่านพระครูปลัดสมศักดิ์ ธนวํโส เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ วัดอ้อมน้อย ตำบลอ้อมน้อย จังหวัดสมุทรสาคร ว่ามีชายรูปร่างท้วมผิวคล้ำใช้ยานพาหนะรถจักรยานยนต์ขับขี่เข้ามายืมของที่วัดแล้วไม่ส่งคืน และไม่สามารถติดต่อได้ โดยจะเลือกยืมเฉพาะชุดโต๊ะหมู่บูชาชนิดทองเหลืองเท่านั้น อีกทั้งท่านพระครูปลัดสมศักดิ์ฯยังได้รับแจ้งจากพระจากวัดที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมว่า โดนในลักษณะเดียวกัน แต่ละวัดจึงทำการส่งภาพจากกล้องวงจรมาเตือนกัน และได้ประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ร.ต.ท.นุชา สุนทรโกมล ร้อยเวรสายตรวจ(20) สภ.กระทุ่มแบน พร้อมชุดสายตรวจเข้าสอบถามข้อมูลจากพระพีรศักดิ์เทวธมโม เป็นพระที่ดูแลห้องคลังและเป็นผู้บันทึกการยืมของ เล่าว่าเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 เวลาประมาณ 14.00 น. มีชายรูปร่างท้วมผิวคล้ำขับขี่จักรยานยนต์ แต่ไม่ทันสังเกตยี่ห้อรถ สี และทะเบียน แจ้งความประสงค์ขอยืมชุดโต๊ะหมู่บูชาที่เป็นชุดทองเหลืองเก่าแก่ของวัด ได้แก่ แจกกันทองเหลือง4คู่(8ชิ้น) เชิงเทียน4คู่(8ชิ้น)ที่กรวดน้ำ2ชุด(4ชิ้น)และกระถางธูป2ใบ(2ชิ้น)รวมทั้งหมด22ชิ้น ประเมินราคาแล้วไม่ต่ำกว่า1หมื่นบาท โดยอ้างว่าก่อนมายืมที่นี่ไปยืมที่วัดนางสาวพื้นที่สมุทรสาครเหมือนกัน แต่ของไม่ครบ ได้มาบางอย่างจึงมายืมที่วัดอ้อมน้อยเพิ่มเติม สาเหตุที่ยืมจำนวนมากเพราะจะนำไปใช้ในงานบูชาครู เมื่อเสร็จงานแล้วจะรีบนำมาคืน แต่ได้มีการลงบันทึกการยืมไว้ในสมุด โดยขอดูชื่อผู้ยืมจากบัตรประชาชน ลงชื่อนายสมบัติ บุญเกิด ที่อยู่37/13 หมู่9 ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร และลงบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ผู้ยืมไว้ด้วย หลังจากนั้นก็เงียบหายไม่นำของมาส่งคืน ทางวัดโทรศัพท์กลับไปก็ไม่รับสาย แต่ใช้เบอร์อื่นโทรกลับมาแต่ไม่พูด ส่วนเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้กับทางวัดไม่สามารถติดต่อได้แล้ว ทางลูกศิษย์วัดที่ร่วมดูแลห้องคลังและอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นก็พยายามช่วยติดต่อแต่ก็ไม่เป็นผล จากการที่ท่านพระครูปลัดสมศักดิ์ฯได้แชร์ข้อมูลทางเฟซบุ๊กเพื่อแจ้งเบาะแส ก็มีเพื่อนของชายผู้ก่อเหตุให้เบาะแสว่าชายคนนี้อยู่ในพื้นที่สมุทรสาคร นครปฐม ตนพยายามช่วยคุยก็ยอมรับว่ายืมจริงแต่ยังไม่นำของมาคืน ยังไม่ติดต่อกลับมา อีกทั้งวัดต่างๆที่โดนก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ก็ยืนยันว่าคนเดียวกันแน่นอน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆตลอดจนนำชื่อที่ได้จากการลงบันทึกการยืมของ ไปทำการตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนว่าบัตรที่แสดงต่อพระสงฆ์ให้ใช้ลงบันทึกนั้นเป็นของผู้ก่อเหตุหรือไม่ และจะได้เร่งประสานขอข้อมูลจากพื้นที่ใกล้เคียง ในการเร่งนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป../
สุเมธ/ภาพ/ข่าว
