มองปัญหาที่แท้จริง

ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ร้อนระอุสำหรับนายจ้างผู้ที่ใช้แรงงานต่างด้าว ที่ได้รับผลกระทบจากพระราชกำหนดแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ ที่มีโทษที่หนักกว่าฉบับเดิมหลายเท่า แม้ตอนนี้รัฐมีทีท่าว่าจะงัดเอา ม.44 ออกมาชะลอเพื่อให้นายจ้างได้ตั้งตัวทัน แต่ก็ถือว่านายจ้างนิ่งนอนใจไม่ได้ เนื่องจากขั้นตอนบางอย่างต้องใช้เวลากันนาน และยิ่งนายจ้างที่ใช้แรงงานหลายคนก็อาจต้องจัดการกับเอกสารเป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งจากการที่ได้สอบถามไปยังนายจ้างที่มาติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาครในวันนี้ บอกว่า พระราชกำหนดฉบับนี้ถือว่าค่อนข้างแรงทีเดียว หากไม่ให้เวลากับนายจ้างในการตั้งรับก็คงได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ซึ่งก็มีหลายคนที่บอกกันว่า หากไม่ผิดจริงจะกลัวอะไรกับบทลงโทษ

ในเรื่องนี้ทางนายจ้างอยากขอชี้แจงว่า ไม่ได้อยากทำผิดกฎหมาย แต่หากใครที่ไม่เคยใช้แรงงานต่างด้าวก็คงไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง อย่างเช่นรัฐบาลก็คงไม่ทราบถึงปัญหาที่นายจ้างเผชิญอยู่ ว่าบางครั้งก็ต้องมีการใช้แรงงานที่ไม่ถูกอยู่บ้างแต่นั่นไม่ใช่ความตั้งใจที่จะหลบหนีกฎหมาย แต่สถานการณ์บางอย่างมันจำเป็น อย่างเช่น วันหนึ่งหากลูกจ้างที่ทำงานอยู่เกิดหนี แรงงานไม่พอ กิจการก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ ก็ต้องไปหาแรงงานที่อื่นเข้ามาเสริมแก้ขัดไปก่อน เพื่อให้งานเดินหน้าได้ ซึ่งเรื่องอะไรแบบนี้เป็นเรื่องที่เกิดได้ประจำ หากรัฐออกกฎหมายมาแบบไม่ฟังปัญหาของนายจ้าง นายจ้างก็แย่เช่นกัน แต่ใช่ว่าพระราชกำหนดฉบับนี้จะไม่ดี มันมีทั้งดีทั้งเสีย

จึงอยากให้ภาครัฐมองให้รอบด้าน และให้เวลาในการตั้งตัว หากจะบังคับใช้กฎหมายทันทีแบบไม่ให้เวลาเลยก็คงไม่ดีเช่นกัน เพราะการเข้ามาติดต่องานกับสำนักงานจัดหางานนั้นต้องใช้เวลามาก บางครั้งมาวันเดียวไม่เสร็จ เพราะมีคนจำนวนมาก และเอกสารของแต่ละนายจ้างก็จำนวนไม่น้อย ส่วนเรื่องจะให้นายจ้างนำเข้าแรงงานโดยตรงอย่างถูกกฎหมายนั้นนายจ้างหลายคนก็อยากทำ แต่ระยะเวลาดำเนินการค่อนข้างนาน จึงอยากให้ภาครัฐเห็นใจนายจ้างด้วยเช่นกัน

เอเซีย/ ภาพ  พรเพ็ญ / ข่าว