พ่อค้าปีนเสาไฟฟ้าแรงสูงเรียกร้องความเป็นธรรมจากอดีตภรรยา

เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันที่ 16 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุมีคนปีนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณสวนต้นไม้ ปากทางเข้าหมู่บ้านเพชรเกษมธานี หมู่ที่ 2 ซ.คลองแค ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและประสานให้เจ้าหน้าที่ทีมจิตวิทยาและทีมรถฉุกเฉินโรงพยาบาลกระทุ่มแบน พร้อมด้วยเบาะลมจากเทศบาลนครอ้อมน้อยมายังที่เกิดเหตุ  ซึ่งมีชายสวมเสื้อคลุมสีแดง นุ่งกางเกงขายาว ไม่สวมรองเท้า ยืนอยู่ในลักษณะโอนไปเอนมา สร้างความหวาดเสียวให้แก่บรรดาไทยมุงเป็นอย่างมาก ซึ่งชายคนดังกล่าวคือนายสมชาย เสียงพงษ์พันธ์ อายุ 50 ปี เป็นคนจังหวัดอ่างทอง แต่ได้มาเช่าห้องอยู่ในซอยคลองแคใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุนานแล้วเพื่อขายของตามตลาดนัด โดยนายสมชาย นั้นได้ตะโกนเรียกร้องให้อดีตภรรยามาหา เพื่อตกลงกันใหม่ในเรื่องทรัพย์สินที่ภรรยาเอาไปโดยไม่แบ่งให้ตนเองเลย โดยที่ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาไกล่เกลี่ยปัญหาครอบครัวระหว่างตนเองกับอดีตภรรยา แล้วก็ตัดสินให้ภรรยาเป็นฝ่ายได้ทรัพย์สินที่มีทั้งหมดไป  ทำให้ตนไม่เหลืออะไร จึงทำให้เกิดความเครียด ทั้งนี้ทุกคนทั้งพี่สาว คนที่รู้จักกับนายสมชาย  ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักจิตวิทยา ได้พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อให้นายสมชาย ลงมาแต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดต้องไปพานางม่วย นามสมมติ อดีตภรรยาที่เพิ่งเลิกกันไปได้ 2 วันนั้น มาตะโกนเรียกให้นายสมชาย ลงมา ซึ่งพอนายสมชาย  ได้ยินเสียงภรรยาพูดก็ยอมลงมาแต่โดยดี แต่ปรากฏว่าสภาพร่างกายที่เริ่มอ่อนแรงเพราะยืนอยู่บนเสาไฟฟ้าแรงสูงท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน จึงไม่มีแรงจะปีนลงมาเองได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องปีนเอาน้ำขึ้นไปให้ดื่ม เมื่อร่างกายมีความสดชื่นขึ้นและช่วยให้นายสมชาย สามารถปีนลงมาได้เอง โดยในเบื้องต้นก็ได้มีการนำตัวไปตรวจร่างกายและสงบสติอารมณ์ที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน

ด้านนางวรรณี เสียงพงษ์พันธ์ อายุ 52 ปี พี่สาวของนายสมชายฯ เล่าว่า นายสมชาย กับ นางม่วย อยู่กินเป็นสามีภรรยากันมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยนางม่วยมีอาชีพเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง  ส่วนน้องชายของตนก็เป็นพ่อค้าขายของตามตลาดนัด ทั้งสองคนได้เช่าห้องพักอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 – 3 วันที่ผ่านมา น้องชาย กับ น้องสะใภ้ ทะเลาะกันขั้นรุนแรงจนถึงกับเลิกรากัน แล้วฝ่ายน้องสะใภ้ก็พาตำรวจมาที่ห้องเช่าเพื่อมาเอาทรัพย์สินไป จึงทำให้น้องชาย เกิดความเครียดที่ต้องสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งตามที่น้องชายเคยเล่าให้ฟังก็มีสร้อยทองน้ำหนักรวมประมาณ 9 บาท กับเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากที่สูญทรัพย์สินไปแล้ว น้องชายก็ดื่มสุรามา 2 วันติดแล้ว ก่อนที่จะมาก่อเหตุปีนเสาไฟฟ้าแรงสูงในครั้งนี้

สุเมธ/ภาพ/ข่าว