พบแล้วเจ้าของเงิน

พี่เมธ - พบเจ้าของเงิน1

เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 22 มกราคม 2560 ศูนย์วิทยุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบเงินสดจำนวน 70,000 บาท ตกอยู่ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเอกชัย หมู่ที่ 4 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรโคกขามให้เข้าตรวจสอบ  ที่บริษัทกิฟฟารีน สาขาถนนเอกชัย ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุและผู้ที่เก็บเงินได้กำลังรออยู่ เพื่อส่งมอบเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเมื่อมาถึงก็พบพลเมืองดีรายนี้คือ นางสาวรัตนา ศรีตะวัน อายุ  44  ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 11 ต.เมืองแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กับ นางจงกร ทับมะโรง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/2 หมู่ที่ 10 ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ทั้งสองคนเป็นพนักงานโรงงานของบริษัทไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด

พี่เมธ - พบเจ้าของเงิน2

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 23 มกราคม 2560 ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเอกชัย  เจ้าหน้าที่พร้อมด้วย นางสาวรัตนา ศรีตะวัน   กับ นางจงกร ทับมะโรง  ก็ได้เดินทางมาพบกับนายกุศล ไฝกิ่ง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม. 1 ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นเจ้าของเงินสดจำนวน 70,000 บาท และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมายให้มาเจอกันเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากทางธนาคารฯ เป็นการยืนยันตัวบุคคล

นายกุศล ไฝกิ่ง เจ้าของเงินกล่าวว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนเองได้นำเงินสดที่ได้จากการนำสลาก ธกส.ไปขายคืน จะเอามาฝากธนาคาร โดยตนได้เงินมาทั้งหมด 100,000 บาท ก็แบ่งใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง 30,000 บาท และที่เหลืออีก 70,000 บาท ก็เอามาฝากธนาคารผ่านตู้เอทีเอ็ม แต่ปรากฏว่าตู้เอทีเอ็มเกิดขัดข้องไม่สามารถฝากได้ ตนจึงเก็บเงินใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต แล้วก็เดินกลับมาขึ้นรถ ขับออกไปโดยไม่ได้สนใจว่าเงินยังอยู่ในกระเป๋าเสื้อหรือไม่ ซึ่งเมื่อออกจากหน้าธนาคารแล้ว ตนก็ขับรถไปซื้อของที่ห้างร้านไทวัสดุ สาขามหาชัย แล้วก็ขับมาทานข้าว จากนั้นก็เข้าไปดูงานก่อสร้างที่วิทยาลัยการพละศึกษาวิทยาเขตสมุทรสาคร จนกระทั่งถึงตอนประมาณ 4 โมงเย็น ล้วงเข้าไปจะหยิบเงินในกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ตออกมาเอาเก็บไว้ในรถ ถึงได้รู้ว่าเงินหายไปแล้ว ซึ่งตอนนั้นก็ตกใจมาก เพราะเงินก้อนนี้ตนเองตั้งใจที่จะเอามาใช้เป็นเงินหมุน ทั้งนี้จึงได้รีบขับรถกลับไปที่ร้านไทวัสดุ ขอดูกล้องวงจรปิดแต่ก็ไม่พบว่าทำเงินหล่น ก็ไปตามหาที่ร้านขายอาหารอีก และในพื้นที่รับเหมาก่อสร้าง แต่ก็ไม่พบเช่นเดียวกัน โดยในใจนั้นไม่คิดว่าจะหล่นที่หน้าธนาคารฯ เพราะเพิ่งจะใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อ จึงไม่น่าจะหล่นได้ ซึ่งหลังจากที่ตามหาทุกแห่งที่คาดว่าเงินจะหล่นหายแต่ไม่พบเลยสักที่ ในใจก็คิดแล้วว่าคงไม่ได้คืน แต่ก็ภาวนาขอให้มีคนดีเก็บเงินได้แล้วส่งคืน ซึ่งพอตกค่ำก็มีพนักงานจากไทวัสดุที่ตนให้ไลน์ไว้นั้น ได้ไลน์ภาพจากทางสื่อเฟสบุ๊คมาให้ดูว่า มีพลเมืองดีพบเงินสด 70,000 บาท แล้วส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตามหาเจ้าของเงิน ขณะที่เพื่อนๆ ก็โทรศัพท์มาบอกว่า มีข่าวออกมาว่ามีคนพบเงิน และให้เจ้าของเงินติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือดาบอ๊อด ผู้รับเงินและเก็บรักษาไว้ ซึ่งทางตำรวจก็ให้มาแสดงตัวตนที่หน้าธนาคารก่อน และต้องทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารว่าเป็นเจ้าของเงินที่แท้จริง จึงจะสามารถมอบเงินคืนให้ได้

นายกุศลฯ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของพลเมืองดีทั้งสองคนนี้เป็นอย่างมาก ที่เก็บเงินได้แล้วไม่คิดจะเอาไว้เป็นของตนเอง โดยได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาเจ้าของเงิน ซึ่งตนเชื่อว่าคนดีๆ ในสังคมไทย เช่นพลเมืองดีทั้งสองคนนี้ยังคงมีอยู่อีกมาก  ขณะที่ทางด้านของนางสาวรัตนา ศรีตะวัน   กับ นางจงกร ทับมะโรง  ก็บอกว่า รู้สึกดีใจที่ตามหาเจ้าของเงินพบและได้เงินกลับคืนไป ซึ่งตนทั้งสองคนปลาบปลื้มใจในการทำความดีครั้งนี้เป็นอย่างมาก โดยหลังจากที่ภาพข่าวแพร่ออกไปก็มีทั้งทางผู้บริหารบริษัทฯ หัวหน้างาน เพื่อนๆ พนักงาน และทางครอบครัว ก็ส่งไลน์ หรือโทรศัพท์มาชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ นายกุศล ไฝกิ่ง ก็ได้มอบเงินสดจำนวน 10,000 บาท ให้แก่ นางสาวรัตนา ศรีตะวัน กับ นางจงกร ทับมะโรง เพื่อเป็นการขอบคุณในน้ำใจและการทำความดีเพื่อสังคม

ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารฯ แล้วพบว่า นายกุศล ไฝกิ่ง เป็นเจ้าของเงินจำนวน 70,000 บาทจริง จึงได้ให้บุคคลทั้ง 3 คน ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.โคกขาม ก่อนที่จะให้ทาง พ.ต.ต.อนุรักษ์ คล้ายดี สารวัตรสอบสวน สภ.โคกขาม ส่งมอบคืนต่อไป../

สุเมธ ภาพ / ข่าว