ผู้ว่าฯนั่ง จยย.สำรวจรถติด สำรวจฝุ่น
เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันที่ 10 มกราคม 2563 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่ดูปัญหาสภาพรถติดถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 หรือค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน ที่พุ่งขึ้นสูงสุดในวันนี้ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้นำคณะรวม 5 คน นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างขับไปบนถนนพระราม 2 ทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งขาเข้าเริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าสำนักงานควบคุมโครงการปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 35 ที่ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 2 ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร มุ่งหน้าขึ้นไปด้าน กทม. เป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นก็วกกลับมาฝังขาออกถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่ทางภาคใต้อีกเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนที่จะมาลงบริเวณปากทางเข้าวัดพันท้ายนรสิงห์ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจุดที่มีรถติดสะสมมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อการวิเคราะห์ปัญหารถติดแล้วนำมาเป็นแนวทางในการแก้ไขให้ปัญหารถติดลดน้อยหรือเบาบางลง อันจะนำไปสู่การทำให้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ลดน้อยลงตามไปได้อีกทางหนึ่งด้วย
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สภาพปัญหารถติดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครพบว่า จะมีรถติดสะสมเพียงแค่บางช่วงบางตอนเท่านั้น แต่ด้วยการจราจรที่หนาแน่นและมีรถวิ่งกันเป็นจำนวนมาก ก็นับเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยในวันนี้ทางจังหวัดสมุทรสาครมีค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งขึ้นสูงสุดถึง 119 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรจนเป็นสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้นหากเราสามารถแก้ไขปัญหารถติดได้ ก็เชื่อได้ว่าจะช่วยลดสภาวะฝุ่น PM2.5 ให้เบาบางลงได้ด้วย ประกอบกับมาตรการของจังหวัดที่มอบหมายให้ประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการฉีดพ่นน้ำในทุกๆวัน ทั้งเช้าและเย็นในช่วงเวลา 08.00 น. กับ 16.00 น. อีกทั้งยังเสริมเรื่องของการเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้ดูดซับอากาศพิษ ทั้งในสถานศึกษา บ้านเรือนประชาชน และในสถานประกอบการ ก็จะเป็นแนวทางที่ช่วยได้
นายวีระศักดิ์ฯ กล่าวอีกว่า ขณะที่ทางด้านของปัจจัยที่เป็นต้นเหตุส่งผลทำให้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 กลับมาพุ่งสูงอีกครั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครหลังช่วงปีใหม่ผ่านพ้นไปแล้วนั้น จากการประเมินของกรมควบคุมมลพิษก็คาดว่าน่าจะมาจาก 2 ประเด็นหลักใหญ่ๆ คือ จำนวนรถที่มีปริมาณมากและการจราจรที่หนาแน่นบนถนนพระราม 2 กับ เรื่องของสถานประกอบการที่กลับมาเปิดทำงานตามปกติแล้วนั่นเอง
สำหรับการประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น จะต้องทำการประเมินกันแบบวันต่อวัน แต่ตนเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจังและทำตามมาตรการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้สั่งการไปนั้น ก็จะต้องแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างแน่นอน
เอเชีย/ภาพ พรเพ็ญ/ข่าว
