ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมการผลักดันน้ำ

พลเรือเอกนริศ  ประทุมสุวรรณ  ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ พร้อมด้วยนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน  ตลอดจนเจ้ากรมอู่ทหารเรือและคณะ ได้เดินทางมาที่บริเวณริมแม่น้ำท่าจีน หน้าวัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งอยู่ในส่วนของพื้นที่ปลายแม่น้ำท่าจีน ใกล้เคียงกับปากอ่าวมหาชัย  เพื่อตรวจการดำเนินการผลักดันน้ำของกองทัพเรือในแม่น้ำท่าจีน (ตอนล่าง) พื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายประภัสสร์  มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมส่วนราชการให้การต้อนรับและร่วมให้ข้อมูล

พลเรือเอกนริศ  ประทุมสุวรรณ  ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า  ตามที่ได้เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับเพิ่มมากขึ้นและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2560  ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้จัดส่งขบวนรถลำเลียงเรือผลักดันน้ำ จำนวน 22 ลำ พร้อมกำลังพล 80 นายเดินทางมายังจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตั้งเรือผลักดันน้ำบริเวณสะพานแม่น้ำท่าจีน 15 ลำ เพื่อดำเนินการผลักดันน้ำจากในแม่น้ำท่าจีน ให้ระบายลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สำหรับในวันนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สนับสนุนเรือผลักดันน้ำเพิ่มเติมในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดสมุทรสาคร ตามที่ได้รับการร้องขอจากกรมชลประทานอีก 33 ลำ  รวมทั้งหมด 55 ลำ ซึ่งได้แบ่งการปฏิบัติหน้าที่ออกเป็นทั้งหมด 4 จุด ได้แก่ 1 สะพานบางยาง จำนวน 10 เครื่อง , 2  สะพานพุทธสาคร  เชื่อมต่อถนนสายใยรัก  จำนวน 20 เครื่อง  3 สะพานบางปลา จำนวน 10 เครื่อง  และ 4  สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ถนนพระราม 2 จำนวน 15 เครื่อง และหลังจากที่ได้ดำเนินการติดตั้งเป็นที่เรียบร้อย เครื่องผลักดันน้ำจะสามารถช่วยระบายน้ำลงสู่ทะเลได้รวดเร็วกว่าปกติ โดยมีอัตราการพ่นน้ำเครื่องผลักดันน้ำ 1 เครื่อง สามารถผลักดันน้ำได้ 100,000 ลบม.ต่อ วัน ซึ่งก็จะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมด้านบนจะคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ

ส่วนทางด้านของนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน  กล่าวเพิ่มเติมว่า แม่น้ำท่าจีน มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 325 กิโลเมตร  ปัจจุบันปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีน เพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งการผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีนลงสู่ทะเลที่บริเวณปากอ่าวมหาชัย จ.สมุทรสาคร จะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงช่วยเร่งระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ให้ไหลลงสู่ทะเลโดยเร็วต่อไป

ขณะที่นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวเสริมอีกว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น ยังอยู่ในภาวะที่ไม่น่าเป็นห่วงแม้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนจะสูงขึ้น แต่เนื่องจากเป็นตอนปลายของแม่น้ำท่าจีน จึงมีระดับน้ำขึ้นลงเป็นปกติ แต่ทั้งนี้ก็ได้ให้ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของจังหวัด มีการติดตามสถานการณ์ และรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หากเกิดกรณีฉุกเฉินจะได้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที

สุเมธ/ภาพ/ข่าว