ผบก. สั่งตรวจสอบสำนักทรงเจ้า ที่แต่งชุดคล้ายเครื่องราชย์เสด็จเตี่ย

AD WEB NET แก้ไข 3-11-60

พี่เมธ - ร่างทรง 1

เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 22 ธันวาคม 2560 ที่ สภ.ย่อยบางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พ.ต.อ.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ให้มาติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดการตรวจสอบสำนักทรงเจ้าในพื้นที่ตำบลบางน้ำจืด หลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้มีการโพสต์ภาพคนทรงเจ้า แต่งเครื่องแต่งกายและประดับเครื่องหมายยศ คล้ายกับชุดเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมกับมีการระบุข้อความว่า “มหาบารมี ประดับเครื่องราชฯ ได้สมพระเกียรติมาก แสดงว่าทรงจริงแน่นอนเลยเจ้าค่ะ พระองค์ควรแจ้งให้ราชสกุลอาภากร ไปเฝ้ารับเสด็จนะเจ้าคะ จะได้สมพระเกียรติจริงๆ หน่อเนื้อพระพุทธเจ้าหลวง มิควรไปลงเกย์แก่ กินเงินพานครู นั่งดูดวงนะเจ้าคะ”

พี่เมธ - ร่างทรง 2

ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย กำลังทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน สภ.ย่อยบางน้ำจืด ก็ได้เข้าตรวจสอบที่สำนักทรงเจ้า ซึ่งใช้ชื่อว่า สำนัก “พุทธะเทวะมงคลสถาน” พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (บางน้ำจืด) ตั้งอยู่เลขที่ 34/7 หมู่ที่ 4 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แต่ไม่พบร่างทรงตามรูปภาพที่ปรากฎในเฟซบุ๊ก พบเพียงคนทำความสะอาด และผู้ที่บอกว่าเป็นลูกศิษย์เท่านั้น จึงได้พามาให้ปากคำต่อที่ สภ.ย่อยบางน้ำจืด โดยมี ร.ต.อ.จำนง เนยขำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ย่อยบางน้ำจืด เป็นผู้สอบปากคำเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 มีผู้ที่แต่งกายด้วยชุดที่คล้ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และทำการทรงเจ้าจริง โดยอ้างว่าเป็นร่างทรงของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย หลังจากนั้นก็จะได้ตรวจสอบบุคคลตามที่ปรากฎภาพในเฟซบุ๊กแล้วเรียกตัวมาสอบปากคำต่อไป นอกจากนี้ยังได้นำเครื่องแต่งกายที่ประดับเครื่องหมายต่างๆ คล้ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ กระบี่ และหมวก มาเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานด้วย

พี่เมธ - ร่างทรง 3

ด้าน พ.ต.อ.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวว่า ในเบื้องต้นต้องทำการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อน เพื่อเป็นพยานยืนยันว่าวันดังกล่าวมีบุคคลแต่งกายด้วยชุดที่คล้ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ขณะทำการเข้าทรง (ทรงเจ้า) จริง จากนั้นก็จะได้นำตัวบุคคลที่ปรากฏตามภาพมาสอบปากคำ ส่วนชุดและเครื่องประดับหรือเครื่องหมายยศต่างๆ ที่พบนี้ ก็จะต้องให้ผู้ที่มีความชำนาญในทางด้านเครื่องหมายยศมาตรวจสอบว่า เป็นเครื่องราชย์จริงหรือไม่ ส่วนการจะตั้งข้อกล่าวหา ก็ต้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน ขณะที่ทางด้านของราชสกุลอาภากร ก็ยังไม่มีท่านใดมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ทั้งสิ้น

 

ส่วนทางด้านของนางสาวบุญล้อม พยัคชาติ อายุ 63 ปี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบอยู่ในสำนักทรงเจ้าฯ ขณะเข้าตรวจสอบนั้น ก็ได้เชิญตัวมาให้ปากคำไว้เป็นหลักฐาน โดยนางสาวบุญล้อมบอกว่า ตนเองเป็นเพียงลูกศิษย์ที่มีความเชื่อความศรัทธาเท่านั้นและจะมาที่นี่เป็นบางครั้ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมคนทรงต้องแต่งกายแบบนั้น  รู้แต่เพียงว่า ชุดเหล่านี้มีลูกศิษย์ซื้อมาถวายให้เป็นเครื่องแก้บน ส่วนคนที่เป็นร่างทรงทราบเพียงชื่อเล่นที่ลูกศิษย์เรียกกันทั่วไปว่า “อาจารย์เอก” แต่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่นี่ จะมาเฉพาะช่วงที่มีงานเข้าทรงเท่านั้น

สุเมธ/ภาพ/ข่าว