ประหารชีวิต

พี่เมธ จีโน่ 2

ที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร   อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีที่พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นโจทก์ฟ้อง นายพชร เทียนชูศักดิ์   และนางสาวจันทราลักษณ์ ลั่นสิน   ในความผิดฐานร่วมกันฆ่านายขจร กิจฤกษ์ไทย หรือ จีโน่ อายุ 18 ปีเศษ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน  ซึ่งศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมแล้วเห็นว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2557 เวลาเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน มีพยานเห็นชัดเจนว่า จำเลยที่ 1 คือ นายพชร เทียนชูศักดิ์   ได้เดินออกมาจากป่าข้างทาง แล้วเอาน้ำมันราดจากนั้นก็จุดไฟเผา นายขจร กิจฤกษ์ไทย หรือ จีโน่ ผู้ตาย ส่วนจำเลยที่ 2 นางสาวจันทราลักษณ์ ลั่นสิน   เป็นผู้โทรศัทพ์ลวงให้ผู้ตายออกมาพบ เพื่อเจตนาฆ่า  โดยลักษณะของจำเลยทั้ง 2 คนนั้น เป็นการกระทำในลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ อีกทั้งพยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมมั่นคง น่าเชื่อถือ ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (4) ประกอบมาตรา 83 ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง แต่คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิตแก่จำเลยทั้ง 2 คน

พี่เมธ จีโน่ 1

ทางด้านของนายวิษณุ กิจฤกษ์ไทย กับ นางรัชวรรณ กิจฤกษ์ไทย พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ที่ได้เดินทางมารับฟังการอ่านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น  ก็ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังจากที่เดินลงมาด้านล่างแล้วว่า วันนี้ทางครอบครัวไม่ได้มาเพื่อมุ่งหวังว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาแบบใด เพราะอย่างไรก็ไม่สามารถเรียกคืนสิ่งที่สูญเสียไปคือ ชีวิตของลูกชายกลับมาได้อีก ซึ่งทุกคนนั้นก็เคารพในคำตัดสินของศาล โดยคำตัดสินที่ออกมาก็เชื่อได้ว่าจะเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยให้ดวงวิญญาณของลูกชายไปสู่สุคติ ซึ่งก่อนออกจากบ้านก็ได้จุดธูปชวนจีโน่ให้มาฟังคำตัดสินของศาลชั้นต้นในวันนี้ด้วยกัน

ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายประชาชนก็บอกว่า หลังจากที่มีคำพิจารณาของศาลชั้นต้นออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็คงจะต้องดูว่าทางฝ่ายจำเลยจะยื่นประกันตัวหรือไม่ ซึ่งหากมีการขอยื่นประกันตัวนั้น ทางตนเองในฐานะทนายฝ่ายโจทก์ก็จะดำเนินการขอยื่นคัดค้านการประกันตัวต่อไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันการหลบหนีของฝ่ายจำเลยที่อาจจะเกิดขึ้นได้../

สุเมธ/ภาพ/ข่าว